ข่าวภาคค่ำ - กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เดินหน้าเยียวยาผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีธนาคาร เริ่มพรุ่งนี้วันแรก
หลังจากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้เยียวยาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยที่อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวตามหลักเกณฑ์ คือ
1.กรณีอพยพตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท
2. กรณีอพยพไม่เกิน 7 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 2,000 บาท
โดยธนาคารธนาคารออมสินจะโอนเงินให้ผู้ประสบภัยผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ได้ผูกไว้กับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
เริ่มโอนเงินให้ผู้ประภัยวันพรุ่งนี้ คือ จังหวัดบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ จำนวน 147,370 ครัวเรือน เงินช่วยเหลือรวม 736,850,000 บาท
ส่วนจังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว และจังหวัดตราด 90,683 ครัวเรือน เงินช่วยเหลือรวม 364,417,000 บาท ผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือในวันที่ 7 ตุลาคม 2568
ส่วนผู้ประสบภัยที่เหลือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะทยอยนำส่งรายชื่อให้ธนาคารออมสินและโอนเงินให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2568
ส่วนกรณีที่ พลโท วรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ประเทศกัมพูชา ให้ส่งมอบแผนอพยพชาวกัมพูชา ในพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง และ บ้านตาพระยา อําเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว รวม3พื้นที่ ภายในวันที่ 7 ตุลาคม
จึงยอมประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา ในวันที่10-12 ตุลาคม กรุงปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา
ล่าสุดภูมิภาคทหารที่ 5 กัมพูชา ทำหนังสือตอบกลับว่า การประชุม RBC ในระดับภูมิภาคทหารมีหน้าที่เพียงอํานวยความสะดวกแก้ไขปัญหาในพื้นที่บรรเทาความตึงเครียดและแก้ไขปัญหาอย่างสันติ แต่ไม่มีอํานาจในการกําหนด เกี่ยวกับเส้นเขตแดน
จากการสังเกตการณ์ในพื้นที่จริงแสดงให้เห็นว่า บางพื้นที่มีการยึดครองและแสวงประโยชน์โดยคนไทยภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา จึงจําเป็นต้องรอผลการประชุม JBC โดยเฉพาะกรณีในพื้นที่บ้านโจคเจย และบ้านไปรจัน ในเรื่องนี้กัมพูชายังคงผลักดันให้มีการประชุม JBC เพื่อหาทางออกโดยเร็ว