เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์น้ำเหนือ ที่ใกล้แตะจุดวิกฤต ส่งผลให้ต้องเร่งระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบ เช่นจังหวัดชัยนาท กระแสน้ำกัดเซาะคันดินแตกเข้าท่วมบ้าน 400 ชีวิตต้องอพยพไปอยู่บนถนน
แนวคันดินกันน้ำท่วมบริเวณหน้าวัดสมอ ตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท พังเสียหาย น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยระดับน้ำสูงตั้งแต่ 10-120 เซนติเมตร แล้วแต่พื้นที่ บ้านที่ยกพื้นสูงยังพออาศัยได้ แต่บ้านชั้นเดียวหลายหลังไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน หรือราว 400 คน ต้องอพยพขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไปสร้างเพิงพักและเช่าเต็นท์พักอาศัยบนถนนสายคันคลองมหาราช ตลอดเส้นทางกว่า 5 กิโลเมตร รวมถึงใช้เรือสัญจรแทนรถยนต์
ชาวบ้านตำบลโพนางดำออก บอกว่า ชินกับน้ำท่วมมาตั้งแต่เกิด แต่ไม่อยากให้ท่วมทุกปี ปีนี้น้ำมาแรงมาก อยากให้กรมชลประทานแจ้งให้ชัดเจนว่า จะปล่อยน้ำมากหรือน้อย เพื่อให้ชาวบ้านมีเวลาเตรียมตัว
ที่ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เริ่มได้รับผลกระทบจากการปรับการระบายน้ำ บ้านเรือนประมาณ 150 หลัง ถูกน้ำท่วมสูงเลยหัวเข่า รองนายกเทศมนตรีตำบลตลุก เร่งเสริมแนวคันกั้นน้ำเพิ่มเพื่อป้องกันพื้นที่ที่ยังไม่ถูกน้ำเข้าท่วม รวมถึงรองรับการระบายน้ำเพิ่มเติมจากเขื่อนเจ้าพระยา
ที่จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอีกพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ พบชุมชนบ้านเกาะบางพระนอน ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี ที่มีกันอยู่ 35 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมมาเกือบเดือนแล้ว ระดับน้ำสูงท่วมมิดหลังคาบ้านชั้นเดียว
นางปราณี อายุ 70 ปี เล่าความทุกข์ยากว่า บ้านตนมีสองชั้น ตอนนี้ชั้นล่างอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายสามีป่วยติดเตียงขึ้นมาอยู่ชั้น 2 และหุงหาอาหารเอง เพราะความช่วยเหลือจากภาครัฐยังเข้าไม่ถึง
มาดูเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง พบน้ำผุดและน้ำซึมตามกำแพงกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาหลายจุด ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทองและทหาร ต้องวางกระสอบทรายอุดรอยรั่ว เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดการทรุดตัว พังทลายลง
บริเวณลานหน้าโบสถ์พระศรีเมืองทอง วัดต้นสน น้ำเจ้าพระยาซึมและทะลักเข้ามาภายในพื้นที่ สูง 30-40 เซนติเมตร หลังเครื่องสูบน้ำเกิดขัดข้อง ทำให้แม่ค้าต้องสู้ยืนขายก๋วยเตี๋ยวแช่น้ำ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาไหว้พระขอพร นั่งกินก๋วยเตี๋ยวบนโต๊ะ แบบที่เท้าแช่อยู่ในน้ำ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทองได้เจาะพื้นวางท่อสูบเพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณวัด
แต่ล่าสุด น้ำเจ้าพระยาไหลลอดใต้กำแพงกั้นแม่น้ำหน้าวัดต้นสนอย่างต่อเนื่อง และเริ่มขยายวงกว้าง ทำให้ชาวบ้านเริ่มกังวล พากันมาเฝ้าดูสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามนำกระสอบทรายวางปิดล้อมจุดที่น้ำซึม เพื่อสกัดน้ำเข้าท่วมวัดและชุมชนโดยรอบ
อีกจุดที่น่าห่วง บริเวณถนนเทศบาล 8 อยู่ติดกำแพงกั้นแม่น้ำเจ้าพระยา พบบ้านเรือน 3 หลัง อยู่ในพื้นที่แอ่งกระทะ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านบอกได้เก็บข้าวของเตรียมไว้แล้ว แต่คืนวันที่ 4 ตุลาคม น้ำซึมเข้าท่วมบ้านสูงกว่าที่คิดไว้ ทำให้ต้องย้ายข้าวของและสัตว์เลี้ยงไปไว้ชั้น 2 รวมทั้งใช้หน้าต่างเข้าออกแทนประตู ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวคืองู หลังพบงูเหลือมขนาดใหญ่หนีน้ำขึ้นมาบนบ้าน
ส่วนชุมชนหัวแหลม ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือน 117 หลัง ถูกน้ำท่วมทั้งหมด บางหลังสูงถึงชั้น 2 เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือออกไปช่วยคนที่ติดอยู่ในบ้าน มีทั้งผู้สูงอายุและเด็กเล็ก โดยลำเลียงทุกคนไปอยู่ศูนย์พักพิงโรงเรียนวัดศาลาปูนวรวิหารชั่วคราว
