เช้านี้ที่หมอชิต - คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ลงพื้นที่ภูมะเขือเพื่อติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยตั้งคำถามถึงรัฐบาล 2 ประเด็นสำคัญ คือ เมื่อไรประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะได้เงินเยียวยา รวมถึงประเด็นการทำประชามติยกเลิก MOU 43 และ 44
เมื่อวาน (5 ต.ค.) ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ลงพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ไทย-กัมพูชา พื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
โดยกระตุ้นรัฐบาลให้ความชัดเจนว่า เงินเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะในช่วงแรก ๆ จะได้เมื่อไร
โดยมองว่าโจทย์สำคัญของ นายกอนุทิน คือจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านได้รับเงินเยียวยาโดยเร็วที่สุด รวมถึงเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และมีมาตรการเชิงรุกมากกว่าการเจรจา
ส่วนเรื่องการทำประชามติยกเลิก MOU 43 และ 44 นายรังสิมันต์ฯ บอกว่าเป็นเรื่องเชิงเทคนิคมาก และยังไม่มั่นใจเลยว่า สส.ในสภาฯ จะเข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้
ดังนั้น หากให้ประชาชนตัดสินใจ ต้องคำนึงว่าประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลมากเพียงพอก่อน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายต่อประเทศได้
ด้านนางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศฯ บอกว่า ได้ทำหนังสือเชิญนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าหารือกับกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับ MOU โดยต้องการทราบว่ามีความเห็นอย่างไร ควรที่จะคงไว้ หรือ ควรที่จะยกเลิก และหากไม่มี MOU ทั้ง 2 ฉบับแล้ว จะมีกลไกใดที่จะนำไปสู่การเจรจากันอย่างสันติ
เมื่อวาน (5 ต.ค.) มีการจัดงานครบรอบวันคล้ายวันเกิดของนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ครบ 60 ปี นอกจากมีงานเลี้ยงแล้วยังมีการจัดกิจกรรมเสวนาทางการเมือง
นายจตุพรฯ บอกว่าเรื่อง MOU 43 และ 44 ไม่ต้องรอประชามติ รัฐบาลต้องใช้ความกล้าหาญในการยกเลิกทันที วันนี้ต้องมีความเด็ดขาดเพราะ MOU 43 และ 44 ที่เป็นปัญหาของชาตินั้น ความจริงถูกฉีกมาตั้งแต่กัมพูชาละเมิดตั้งแต่วันแรก
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวสั้น ๆ ว่า MOU 43 และ 44 ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่ควรจะไปรับรอง ให้ยกเลิกไป