วันนี้ (6 ต.ค. 68) พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก2 บก.ทล. หรือตำรวจทางหลวงชุมพร เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. พร้อมกำลังตำรวจทางหลวงชุมพร ได้ขับรถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2406 ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ขณะมาถึงบริเวณทางหลวงเพชรเกษม กม.478 ขาล่องใต้ เขตพื้นที่ ม.4 ต.หาดพันไกร อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ได้พบรถกระบะตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน 2ฒย 6004 กรุงเทพมหานคร ขับมาในลักษณะแช่ขวายาวตลอดเส้นทางเดินรถ และได้แซงรถวิทยุขึ้นมาในช่องทางขวา เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตาม ส่งสัญญาณพร้อมใช้โฟนบังคับให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อว่ากล่าวตักเตือน
ต่อมาเมื่อส่งสัญญาณให้หยุดแล้วนั้น รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วลักษณะคล้ายจะหลบหนี แต่ไม่รอดถูกตำรวจบังคับจนรถคันดังกล่าวหยุดริมถนนข้างทาง จากนั้นจึงได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ พบว่า นายณัฐกานต์ อายุ 30 ปี ชาว จ.พิษณุโลก เป็นคนขับ โดยบอกว่าบรรทุกพัสดุ แต่ท่าทางมีพิรุธ ตำรวจจึงสั่งให้ไปเปิดตู้ทึบ ซึ่งพบว่ามีบุคคลนั่งอยู่ภายในตู้ทึบเป็นชายชาวเมียนมา 13 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดงตน หรือหลักฐานแสดงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นายณัฐกานต์ และชาวเมียนมาทั้งหมด พร้อมรถของกลางมายังหน่วยบริการตำรวจทางหลวงท่าแซะ ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด
จากการสอบถาม นายณัฐกานต์ ให้การรับสารภาพว่า ชาวเมียนมาทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง และเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งรับมาจากป่าอ้อยติดภูเขา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยการติดต่อผ่านนายหน้า ได้ค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท จุดหมายปลายทางที่กำหนดคือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เบื้องต้นได้ทำการบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหา และแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันต่อไป
