สนามข่าว 7 สี - ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่าคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นทองภายในห้างบิ๊กซี สุไหงโก-ลก มีไม่ต่ำกว่า 20 คน และน่าจะเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
โดยเมื่อวานเจ้าหน้าที่พบรถ 2 คัน ที่ใช้ก่อเหตุ ถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในสวนปาล์มน้ำมัน ใน ตำบลกายูคาละ อำเภอแว้ง จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี และพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บรอยนิ้วมือแฝง รวมไปถึง DNA ของคนร้าย
ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกส่วนเข้าตรวจสอบที่ร้านทองจุดเกิดเหตุ มีการเก็บรอยนิ้วมือแฝง และ DNA ของคนร้าย จากตู้โชว์ในร้านทองไปตรวจสอบ พร้อมทั้งได้เรียกสอบปากคำ รปภ. ที่เข้าเวรขณะที่คนร้ายก่อเหตุ รวมทั้งพนักงานร้านทอง
ซึ่ง ผู้จัดการร้านทอง คาดว่าคนร้ายได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมด ประมาณ 600 บาท จากทั้งหมดที่มีในตู้โชว์ประมาณ 800 บาท รวมมูลค่าทองคำที่ถูกปล้นเป็นมูลค่าประมาณ 35.67 ล้านบาท
จากการสืบสวน พบว่าคนร้ายทั้งหมดน่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่วางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดี โดยมีการแบ่งหน้าที่กันออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มปล้นรถ มี 5 คน ที่เข้าไปปล้นรถจากบ้านของชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านลูโบ๊ะบาตู อำเภอสุไหงปาดี ไป 2 คัน
- กลุ่มปล้นทอง เป็น 8 คน ที่บุกเข้าไปปล้นทอง ภายในห้างบิ๊กซี และได้ทองคำไป 600 บาท
- กลุ่มโรยตะปูเรือใบ พร้อมวางระเบิดเพื่อสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกลุ่มนี้มีการใช้รถจักรยานยนต์นำระเบิดไปวางไว้ตามเส้นทางหลบหนี 3 จุด แต่ระเบิดขึ้น 2 จุด
จึงคาดว่ากลุ่มของคนร้ายน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง ก่อนหน้านี้
โดย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ระบุเพิ่มเติมว่า ลักษณะการก่อเหตุมีรูปแบบเหมือนกับเหตุปล้นทองสุธาดา มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ในพื้นที่ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 และคดีปล้นตู้ ATM หลายตู้ในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 คาดว่าน่าจะเป็นการกระทำของกลุ่ม BRN เพื่อนำเงินไปใช้เป็นทุนในการก่อความไม่สงบ พร้อมกับประณามการกระทำเยี่ยงโจรดังกล่าว
และหลังก่อเหตุ กลุ่มของคนร้ายได้นำรถไปจอดไว้ที่สวนปาล์มน้ำมัน ใน อำเภอแว้ง และคาดว่าน่าจะหลบหนีผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ อำเภอแว้ง แล้วข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
