วันนี้ (7 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามวลน้ำลำมูลในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านหลายร้อยไร่ที่อยู่สองริมฝั่งลำน้ำ เนื่องจากมีมวลน้ำจากพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ใน จ.นครราชสีมา เริ่มไหลมาถึงพื้นที่ อ.พิมายแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ จึงได้ยกบานประตูระบายน้ำของเขื่อนพิมายขึ้นทุกบาน และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จากเดิม 4 เครื่อง เพิ่มเป็น 11 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำภายในเขื่อนพิมาย ออกไปลงลำมูลด้านท้ายเขื่อนให้เร็วที่สุด
เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับมวลน้ำอีกจำนวนมากที่ไหลลงลำมูล และกำลังมาเหนือเขื่อนพิมายในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค. นี้ หลังจากมีการคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าจะมีอิทธิพลของพายุลูกใหม่พาดผ่านพื้นที่ในช่วงดังกล่าว
ส่งผลทำให้นาข้าวนับร้อยไร่ของเกษตรกรที่อยู่ติดกับลำมูลทางด้านท้ายเขื่อนพิมาย ถูกน้ำมูลเอ่อท่วมนาข้าว จนต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงจมน้ำทั้งหมด ซึ่งต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอพิมายกันอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นพื้นที่รองรับมวลน้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ ของ จ.นครราชสีมา ที่ไหลมาสมทบเป็นจำนวนมากในช่วงนี้
โดยปริมาณน้ำในเขื่อนพิมายวันนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ รายงานว่า มีปริมาณน้ำเกินความจุ โดยอยู่ที่ 4,304,000 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 119.24% ของความจุ แต่ยังไม่ถึงระดับวิกฤติ ซึ่งช่วงนี้ยังมีมวลน้ำจากลำตะคอง ลำเชียงไกร และลำจักราช ไหลสมทบลงลำมูลอย่างต่อเนื่อง และมวลน้ำในลำมูลเหล่านี้จะมาที่เขื่อนพิมาย
ทางเขื่อนฯ จึงต้องเร่งผลักดันน้ำออกไปลงลำมูลด้านท้ายเขื่อนพิมายโดยเร็ว ในอัตรา 145.44 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือมีปริมาณน้ำระบายออก 13.03 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อพร่องน้ำเหนือเขื่อนไว้รองรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลมาเพิ่มอีก