ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี มอบอำนาจทหารดูชายแดน ทำเต็มที่ตามกฎหมายไทย ขณะที่ชาวกัมพูชาพากันขึ้นรถบัสที่ผู้ว่า ฯ บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา จัดหามา เข้ามาเพิ่มในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
เป็นภาพบนเฟซบุ๊ก Army military force ที่ระบุว่า นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย จัดหารถบัสสองชั้นเพื่อขนชาวบ้าน เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ จากจังหวัดใกล้เคียง เข้าไปยังพื้นที่ชุมชนบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว ที่มีเป้าหมายเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของประเทศไทย
ส่วนวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กองทัพภาคที่ 1 ให้ทางกัมพูชาส่งแผนอพยพมาให้ หากต้องการประชุม RBC ร่วมกัน แต่สุดท้ายทางกัมพูชาก็ไม่ได้ส่งแผนอพยพมาให้
โดยวันนี้ พลโท วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตามแผนเผชิญเหตุและแผนการใช้กำลังตามกฎหมาย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ได้บอกกับรัฐมนตรีที่ร่วมประชุมว่าจะเพิ่มข้าราชการระดับหัวหน้าส่วนราชการ คือ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้เข้าร่วมการประชุมทุกครั้ง จากเดิมที่จะได้เข้าประชุมเฉพาะเมื่อมีเรื่องพิจารณา หรือวาระเพื่อให้เข้ามาชี้แจงเรื่องที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองนโยบายได้ทันที
นายกรัฐมนตรี ยืนยันการแก้ปัญหาชายแดนจังหวัดสระแก้ว ทั้งบ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว ว่ามอบให้ฝ่ายความมั่นคง ดำเนินการกับคนที่รุกล้ำประเทศไทย คนไทยต้องได้รับความยุติธรรมภายใต้กฎหมายเดียวกัน ที่เรื่องรักษาอธิปไตย ให้กองทัพดำเนินการตามอำนาจเต็ม
กองทัพภาคที่ 2 ยังตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย, โดนตวล, พื้นที่ซำแต, พื้นที่ภูผี, พื้นที่ฐานปฏิบัติการหนองแค และบริเวณเนิน 350 ยังพบโดรนบินเหนือบริเวณดังกล่าว และตรวจพบรถแบ็กโฮ รถบรรทุก 10 ล้อ ทำการปรับปรุงที่มั่นขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นการปรับปรุงบังเกอร์สำหรับหลบภัย แต่ไทยก็เตรียมความพร้อม
สำหรับ MOU 43 ที่จัดทำขึ้นสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี สาระสำคัญคือต้องการให้กัมพูชา ร่วมปักปันเขตแดนในพื้นที่ที่มีปัญหา แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดูแล ที่ข้อตกลงไม่ได้ทำให้ประเทศเสียเปรียบ แต่จะเป็นการทำให้ประเทศดีขึ้น