สนามข่าว 7 สี - ญาติเศร้ารอรับศพ "น้องมีน" อดีตเชฟเสียชีวิตที่กัมพูชา ไม่เชื่อจากอาการป่วย คาดถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ขณะที่ร่างจะถึงเมืองคอนเย็นวันนี้ (9 ต.ค.)
นางสาวสุภาวดี พี่สาว มารอรับศพน้องชายที่ด่านชายแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทยกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ประสานทางการกัมพูชาและสถานกงสุลไทย เพื่อยืนยันตัวตน และทำเรื่องขอนำศพข้ามกลับมายังประเทศไทย เมื่อเจอกับร่างน้องชายถึงกับร้องไห้ เพราะความสงสารน้องชาย
พี่สาวบอกว่า ก่อนเสียชีวิตน้องชายได้โทรหาเธอ เร่งให้โอนเงินมาให้ แต่พี่สาวผิดสังเกต รู้สึกว่าไม่ได้มีแค่น้อง แต่มีคนอื่นอยู่ข้าง ๆ ด้วย อีกทั้งยอดเงินที่ขอแม่กับขอตนเองไม่เท่ากัน จึงไม่โอนเงินให้ พูดก่อนตัดสายว่า "ถ้ากูกลับได้ กูกลับมาแล้ว"
ส่วนบรรยากาศที่บ้าน ตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี พ่อแม่และญาติ ๆ รอศพของนายเมธาชาญ ด้วยบรรยากาศโศกเศร้า มี นางสาวกษิญา ลิ้มตระกูล นายอำเภอพรหมคีรี และชาวบ้านในพื้นที่เดินทางไปให้กำลังใจครอบครัว
พ่อและแม่ เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจที่ลูกชายต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสงสาร และไม่เชื่อว่าเสียชีวิตเองจากอาการป่วย แต่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เนื่องจากตอนที่พูดคุยกับผู้ประสานงานช่วยเหลือว่า น้องมีนยังสบายดีไม่ได้ป่วยมาก แต่จู่ ๆ ช่วงค่ำมาทราบว่าน้องเสียชีวิต ต้องรอผลการชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้งจากทางฝ่ายไทยหลังจากรับศพแล้ว
ที่สำคัญเงินสดกว่า 300,000 บาท และเอกสารพาสปอร์ตต่าง ๆ สูญหายหมด ตอนที่คุยกับน้องมีนทางอินสตาแกรม มีหญิงนิรนามคอยประสานงานให้พูดคุยกัน ซึ่งลูกชายได้ขอเงินจากบ้านเพื่อเป็นค่าที่พัก อาหาร และค่าเดินทางกลับประเทศไทย และมีเสียงคล้ายมีคนบงการอยู่ข้าง ๆ เมื่อวางสายไปก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีกเลย
ขณะที่ เพจ Army Military Force โพสต์ภาพเอกสารของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ออกแถลงการณ์ "เชฟไทยที่เสียชีวิตจากสาเหตุโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษา" เป็นข้อมูลเท็จ ระบุ การสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและการชันสูตรพลิกศพ พบว่าชายไทยคนดังกล่าวเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว ที่หมู่บ้านกบาลสะเปีย ตำบลโอชโร เมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย
เจ้าหน้าที่และบุคลากรของสถานพยาบาลทุกแห่งยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพในการช่วยชีวิตผู้ป่วยโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความเกี่ยวข้องทางการเมือง กระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นการให้บริการสุขภาพเพื่อให้เกิดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หมายความว่าทุกคนจะไม่ถูกละเลยการได้รับบริการด้านสุขภาพ ดังที่กล่าวมาข้างต้น
