ผลการศึกษา เผย สหรัฐฯ หนุน อิสราเอล ไปกว่า 7 แสนล้านบาท นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในกาซา

ผลการศึกษา เผย สหรัฐฯ หนุน อิสราเอล ไปกว่า 7 แสนล้านบาท นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในกาซา

View icon 52
วันที่ 9 ต.ค. 2568 | 08.51 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผลการศึกษาจากสถาบันในสหรัฐฯ เผย รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้เงินหนุน อิสราเอล ไปแล้วกว่า 7 แสนล้านบาท นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในกาซา ซึ่งกินเวลามาแล้ว 2 ปี

วันนี้ (9 ต.ค. 68) สำนักข่าว “ซินหัว” รายงานว่า โครงการ “คอสต์ส ออฟ วอร์” (Costs of War Project) ของสถาบันวัตสันเพื่อกิจการระหว่างประเทศและสาธารณะ สังกัดมหาวิทยาลัยบราวน์ ประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่การศึกษาระบุว่า ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้เงินจำนวน 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7.05 แสนล้านบาท สนับสนุนด้านการทหารให้แก่อิสราเอล นับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในกาซาขึ้น เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2566 ซึ่งกินเวลามาแล้ว 2 ปี

โดยการศึกษาฉบับดังกล่าวระบุว่า ภายใต้การบริหารของทั้งรัฐบาล “โจ ไบเดน” (อดีต ปธน.สหรัฐฯ) และ “โดนัล ทรัมป์” (ปธน.สหรัฐฯ) สหรัฐฯ ได้ตกลงทำสัญญาขายอาวุธและบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยชำระเงินในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ การศึกษาข้างต้นยังเผยว่าอาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้ถือเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) และตำรวจอิสราเอลในกาซา เขตเวสต์แบงก์ และพื้นที่อื่น ๆ โดยอาวุธส่วนใหญ่ที่อิสราเอลใช้อยู่ในปัจจุบันในกาซาและทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางมาจากคลังแสงที่ผลิตในสหรัฐฯ

เมื่อพิจารณาจากขนาดของการใช้จ่ายในปัจจุบันและอนาคต การศึกษาชี้ให้เห็นว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลคงไม่สามารถสร้างความเสียหายวงกว้างขนาดนี้ในกาซา หรือขยายปฏิบัติการทางทหารไปทั่วภูมิภาคได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน, อาวุธยุทโธปกรณ์ และแรงหนุนทางการเมืองจากสหรัฐฯ

ขณะที่รายงานฉบับเสริมได้ประเมินว่าสหรัฐฯ ใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกราว 9.65 พันล้าน ถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.13-3.92 แสนล้านบาท ในปฏิบัติการทางทหารในเยเมนและพื้นที่อื่น ๆ ของภูมิภาค ซึ่งเกิดขึ้นหรือดำเนินเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2566 ทำให้ยอดการใช้จ่ายทั้งหมดของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 3.13-3.37 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.02-1.1 ล้านล้านบาท และยังจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้โครงการ “คอสต์ส ออฟ วอร์” ได้ระบุว่า เมื่อนับถึงช่วงก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน พ.ศ.2568 กระทรวงสาธารณสุขของกาซารายงานยอดผู้เสียชีวิตรวม 67,075 คน และผู้บาดเจ็บ 169,430 คน ซึ่งตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมกัน 236,505 คนนี้ คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรกาซาก่อนเกิดสงคราม อีกทั้งมีประชาชนอย่างน้อย 5.27 ล้านคนที่ต้องพลัดถิ่นหรืออพยพออกจากบ้านเรือนในกาซา อิหร่าน อิสราเอล เลบานอน และเขตเวสต์แบงก์ นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2566 ซึ่งซึ่งรวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ราว 1.85 ล้านคน