“อนุทิน” เตรียมแจ้ง “ทรัมป์” ย้ำ กัมพูชาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ข้อก่อนจึงจะมีการเจรจา โต้! “ฮุน มาเนต” ยืนยัน แก้ปัญหาชายแดนสระแก้วไม่มีคำว่าล่าช้า ย้ำไม่มีเส้นตายผลักดันเขมรออกนอกพื้นที่
วันนี้ (9 ต.ค.68)นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน(ASEAN SUMMIT)ที่ประเทศมาเลเซียช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ จะมีโอกาสได้เจอกับผู้นำกัมพูชาด้วยหรือไม่ ว่า เราได้แจ้งเงื่อนไขไปแล้ว 4 ข้อซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ก่อนที่จะมีการพูดคุยกันต่อไป
พร้อมย้ำ “มันไม่มีคำว่าเดดไลน์” วันที่ 10 ตุลาคมนี้ ที่ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ เราต้องปฏิบัติก่อน หากไม่ปฏิบัติก็จะมีมาตรการที่จะดำเนินการลำดับถัดไป การทำความเข้าใจกับประชาชนเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีการหารือกับฝ่ายกองทัพและกองทัพก็รับไปในเรื่องของการใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กฎอัยการศึก ในการบริหารสถานการณ์ตรงนั้นร่วมกับทางฝ่ายปกครอง ตำรวจ และป่าไม้
ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อ้างว่าพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามใน GBC แก้ปัญหาชายแดนสระแก้วผ่าน JBC เท่านั้น และ บอกว่า ไทยทำล่าช้า แก้ปัญหาล่าช้า นายอนุทิน ยืนยันว่า ไทยไม่ได้ล่าช้า ที่ล่าช้าคือ กัมพูชา ไทยเป็นผู้ถูกรุกรานเป็นผู้ถูกกระทำ ดังนั้นคำว่าล่าช้าไม่มี
ส่วนที่ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นตัวกลาง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากำลังจะแจ้งทางประธานาธิบดี ทรัมป์ ซึ่งได้มีหนังสือมาที่ตนเอง แสดงความจำนงค์อยากเห็นไทยและกัมพูชา สามารถเจรจาหาข้อยุตติข้อพิพาท ซึ่งตนเองก็จะมีข้อความตอบกลับไป ว่าหากกัมพูชาปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลงหลัก ฝ่ายไทยเราก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น ย้ำว่าเราต้องยืนยัน 4 ข้อนี้ เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศและที่สำคัญเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนของไทย
ส่วนการยกเลิก MOU 43 และ 44 คณะกรรมาธิการฯกำลังศึกษาอยู่ ส่วนจะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่เป็นเรื่องของสภาเราต้องรับฟังทั้ง 2 สภา เนื่องจากมีการตั้งกรรมาธิการทั้ง 2 สภา ทุกอย่างต้องนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทีละประเด็น แต่ 4 เดือนนี้อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรที่เป็นเรื่องระยะยาว ต้องทำให้สถานการณ์ปัจจุบันคลี่คลายไปให้ได้มากที่สุดก่อน