ตาวัย 75 จำใจใช้จอบตีลูกชายคนเล็ก จนเสียชีวิต เพราะลูกขี้เมา และทำร้ายร่างกายขู่ฆ่าพ่อประจำ ล่าสุด เมาแล้วต่อยพ่อหงายท้องขณะนั่งกินข้าว พ่อเผยสุดเศร้า ขอให้ลูกอโหสิกรรมต่อกัน หลังจากนี้หากติดคุก ฝากเพื่อนบ้านดูแล ลูกชายคนโตพิการติดเตียงแทนหน่อย
9 ตุลาคม 2568 ความคืบหน้ากรณีที่ ตาอุดม อายุ 75 ปี ชาวบ้านหนองจอก ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้จอบกระหน่ำตีศรีษะนายสมศักดิ์ อายุ 47 ปี ลูกชายคนเล็กของตัวเองบาดเจ็บสาหัสขณะนอนที่เปลหน้าบ้าน ก่อนจะเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 8 ต.ค.68 ที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากนายสมศักดิ์ ลูกชายดื่มสุรามึนเมาใช้กำลังทำร้ายร่างกายพ่อเป็นประจำ ล่าสุด คืนเกิดเหตุก็เมาแล้วด่าทอพ่อทั้งต่อยหน้าพ่อ ขณะนั่งกินข้าวจนล้มหงายท้อง ทำให้พ่อเหลืออดบันดาลโทสะ คว้าจอบที่อยู่ข้างบ้านไปกระหน่ำตีศรีษะนายสมศักดิ์ ลูกชายหลายครั้ง จนไปเสียชีวิตที่ รพ.
ล่าสุดวันนี้ (9 ต.ค.68) ทางญาติ และชาวบ้าน ได้ร่วมกันประกอบพิธีฌาปนกิจศพนายสมศักดิ์ ที่วัดในหมู่บ้าน หลังจากที่ตั้งสวดอภิธรรมเพียงคืนเดียว เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน แม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพ่อก็ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่โรงพัก เหลือเพียงนายดาวน้อย อายุ 52 ปี พี่ชายคนโตที่พิการติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่ที่บ้านเท่านั้น ซึ่งญาติและชาวบ้านต่างก็เห็นใจผู้เป็นพ่อที่ต้องจำใจฆ่าลูกชายตัวเอง เพราะสุดทนกับพฤติกรรมลูกชายที่ดื่มเหล้าเมาและทำร้ายพ่อเป็นประจำ บางครั้งก็ขู่จะฆ่า
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ พบมีญาติและชาวบ้าน เอาข้าวอาหารไปให้นายดาวน้อย ลูกชายคนโตของผู้ก่อเหตุ รับประทาน และดูแลแทน เพราะพ่อยังอยู่ที่โรงพัก
ต่อจากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหากไม่มีญาติมายื่นขอประกันตัวในชั้นสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนก็จะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง อ.นางรอง ซึ่งการประกันตัวในข้อหา "ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย" (มาตรา 290) มีอัตราหลักทรัพย์ประกันตัวเบื้องต้นประมาณ 180,000 - 200,000 บาท หรือสามารถใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวได้ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลหรือพนักงานสอบสวน
ทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถาม ตาอุดม ผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ก็บอกว่า หัวอกคนเป็นพ่อก็เสียใจที่ต้องฆ่าลูกชายตัวเอง แต่มันรับไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะที่ผ่านมาถูกลูกทำร้ายจนนับครั้งไม่ถ้วน แถมยังขู่เอาเงินเบี้ยคนพิการ กับพี่ชายที่พิการติดเตียง ส่วนตัวเองก็ยอมรับผลที่กระทำลงไป หากตัวเองต้องติดคุกก็เป็นห่วงลูกชายคนโตที่พิการติดเตียงไม่รู้ใครจะดูแล ส่วนน้องสาวก็ต้องดูแลแม่ชราอายุ 90 กว่าปีแล้ว ฐานะก็ยากจนคงไม่มีใครมีเงินมาประกันตัว หากติดคุกก็คงฝากให้ญาติหรือชาวบ้านช่วยดูแลแทน ส่วนลูกชายคนเล็กก็ขอให้อโหสิกรรมต่อกัน
ด้านนางน้อย อายุ 64 ปี ชาวบ้านหนองจอก บอกว่า รู้สึกหดหู่และสะเทือนใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็เห็นใจและสงสารคนเป็นพ่อ เพราะที่ผ่านมาถูกลูกชายขี้เมาทำร้ายร่างกายประจำ ก็คงจะเหลืออดและสุดทนจริงๆ คนเป็นพ่อถึงได้ฆ่าลูกได้ และอีกอย่างสาเหตุก็เกิดจากความเมาหากไม่เมาก็อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดแบบนี้
