เขื่อนลำปาว ปิดประตูอาคารระบายน้ำล้น ช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้าย ทั้งลำน้ำปาว และลำน้ำชี

เขื่อนลำปาว ปิดประตูอาคารระบายน้ำล้น ช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้าย ทั้งลำน้ำปาว และลำน้ำชี

View icon 126
วันที่ 9 ต.ค. 2568 | 15.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (9 ต.ค. 68) นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์  พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำลำปาว พร้อมทำการปิดประตูอาคารระบายน้ำล้น

เพื่อลดปริมาณระบายน้ำลงลำน้ำเดิมช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ทั้งใน จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี และเพื่อช่วยให้มีการจัดการจราจรน้ำที่ไหลมาจาก จ.ชัยภูมิให้มีประสิทธิภาพและไหลสะดวกมากขึ้น

นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,810 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้านลบ.ม.)  หรือคิดเป็น 92 เปอร์เซ็นต์ จากความจุ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังสามารถรับน้ำได้อีก 170 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งประสิทธิภาพของเขื่อนลำปาวสามารถยังรับน้ำในช่วงปลายฤดูฝนนี้ได้ นายสำรวย กล่าวต่อว่า สำหรับการบริการจัดการน้ำในช่วงนี้

ทางโครงการฯได้เริ่มปรับลดการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำเดิมมาเรื่อย ๆ ได้ระยะหนึ่งแล้ว และล่าสุดวันนี้ได้ปิดประตูอาคารระบายน้ำล้นทั้ง 4 บาน เพื่อลดการระบายลงลำน้ำเดิมบริเวณอาคารระบายน้ำล้น เพื่อช่วยเหลือ และลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้าย ทั้งลำน้ำปาว จ.กาฬสินธุ์ และลำน้ำชีในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี ให้มีปริมาณน้ำลดลง

รวมทั้งเพื่อช่วยให้การจัดการจราจรน้ำในลำน้ำชี ที่จะต้องรับน้ำไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ ซึ่งปัจจุบันมาถึง จ.ขอนแก่นแล้ว ให้มีประสิทธิภาพและไหลสะดวกมากขึ้นด้วย

นายสำรวย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันทางโครงการฯ ยังคงส่งน้ำลงลำน้ำเดิม บริเวณอาคารผันน้ำ เพื่อรักษาระบบนิเวศ และส่งน้ำเข้าระบบคลองชลประทาน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร รวมทั้งการช่วยเหลือ ด้านอุปโภค บริโภค ประปา อุตสาหกรรม และระเหย ซึ่งจะมีปริมาณน้ำออกจากอ่างเฉลี่ยวันละ 6.39 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ยืนยันว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ปัจจุบันนี้มีเพียงพอ ทั้งอุปโภค บริโภค การเกษตร และประมง ในช่วงหน้าแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง