เช้านี้ที่หมอชิต - อาการเด็ก 4 คน แอบซื้อประทัดมาแกะเอาดินปืนไปใส่ในพลุโอ่งแล้วจุดไฟ จนเกิดระเบิดดังสนั่นที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด เด็กชาย 10 ขวบ เข้ารับการผ่าตัดนำสะเก็ดระเบิดออกแล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด
ญาติ ๆ ได้มานั่งเฝ้าติดตามอาการของ เด็กชายเข้ม อายุ 10 ขวบ ที่หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรมตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น อย่างมีความหวัง หลังถูกประทัดที่ดัดแปลงด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ระเบิดใส่อาการสาหัส
นายแพทย์โพธิพงษ์ เรืองจุ้ย ศัลยแพทย์อุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เปิดเผยว่า การหายใจของผู้ป่วยดีขึ้น ระดับความรู้สึกยังไม่เป็นปกติ ยังไม่ลืมตา แต่เริ่มขยับแขน-ขา ซึ่งถือว่าดีกว่าวันแรกที่มาถึงโรงพยาบาล ที่ร่างกายผู้ป่วยไม่ตอบสนอง เพราะสมองส่วนหน้าเสียหายมาก อีกทั้งมีภาวะตกเลือด ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน เพื่อนำก้อนเลือด กะโหลกด้านหน้า และสะเก็ดระเบิดจำนวนมากที่ฝังอยู่ตามเนื้อสมองออก ขณะนี้ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ระวังการติดเชื้อ
อาการของเด็กอีก 3 คน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมแพ แพทย์ได้ย้าย เด็กชายโน้ต อายุ 8 ขวบ มารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อวินิจฉัยว่าดวงตาซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บจะมองเห็นหรือไม่ ส่วนอีก 2 คน คือ เด็กชายเชล อายุ 8 ขวบ และ เด็กชายไข่ตุ๋น อายุ 7 ขวบ แพทย์ให้รอดูอาการ หากไม่ได้รับบาดเจ็บมากอาจอนุญาตให้กลับบ้านได้
ด้าน ผู้กำกับการ สภ.สีชมพู นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ลงเก็บหลักฐานที่วัดธรรมิการาม ตำบลนาจาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น พบบริเวณด้านหลังศาลาวัดอยู่ตรงข้ามบ้าน เด็กชายเข้ม พบร่องรอยระเบิดที่เด็ก ๆ ดัดแปลงใส่พลุโอ่ง ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แรงระเบิดยังกระเด็นถูกแท็งก์น้ำตั้งห่างออกไป 2 เมตร มีคราบเลือดกองที่พื้น บริเวณโดยรอบวัดพบเศษประทัดลูกบอล ทั้งแตกและไม่แตกเกลื่อนพื้น จากการเก็บประทัดลูกบอลที่จุดแล้วไม่แตกมาแกะ พบดินปืนบรรจุอยู่ในพลาสติกจำนวนมาก บางลูกดินปืนภายในถูกไฟเผาจนหมดแต่ประทัดไม่แตกก็มี
นางสาวนนทิวา อายุ 20 ปี ญาติของเด็กชายเข้ม บอกว่า เตือนน้องเรื่องเล่นประทัดหลายครั้ง คนในบ้านก็เตือน แต่ด้วยความเป็นเด็ก ดื้อและซุกซนตามวัย น้องจึงไปซื้อประทัดและเก็บตามพื้นมาดัดแปลง เพราะคิดว่าเมื่อผสมกันแล้วจะได้พลุดอกไม้ไฟ แต่กลายเป็นระเบิดแทน
พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น สั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตรวจตราร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ และวัตถุอันตราย ในช่วงเทศกาลออกพรรษา และเทศกาลลอยกระทงที่จะมาถึงอย่างเข้มงวด