“ลุงขี้เมา” แว๊นเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์วัยรุ่น ก่อนล้มพับหลับข้างถนน พลเมืองดีรุดช่วย เจอปืนพกเหน็บเอวแตกตื่น
กลางดึกวานนี้ (9 ต.ค.68) ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน เหตุเกิดบริเวณสามแยกหลังหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองปรือ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฯ รีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 สีขาว มีชายอายุประมาณ 45- 55 ปี ไม่พกเอกสารแสดงตัวบุคคล อยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนคู่กรณีเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำ มีนายฤทธิ์เดช อายุ 20 ปี เป็นผู้ขับขี่ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ หลังพลเมืองดี พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เหน็บอยู่ที่เอวของคู่กรณี ซึ่งทำเป็นแกล้งหลับหลังเกิดอุบัติเหตุ
สอบถามนายฤทธิ์เดช ให้ข้อมูลว่า ขี่จักรยานยนต์ออกจากหลังหมู่บ้าน ส่วนคู่กรณีขี่มาตามถนนซอยเขาน้อยเก้า ต่างฝ่ายต่างเบรก แต่ก็เสียหลักเฉี่ยวชนกันจนล้มคว่ำ คู่กรณีนอนนิ่ง จึงถอยออกมาห่าง กระทั่งพลเมืองดีผ่านมาช่วยปลุก แต่เจ้าตัวไม่มีท่าทีตอบรับ กระทั่งเหลือบไปเห็นว่าพกปืนอยู่ที่เอว พลเมืองดีจึงรีบหยิบแล้วโยนเข้าป่า ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
ด้านพลเมืองดีให้ข้อมูลว่า เห็นอุบัติเหตุ จึงรีบจอดรถเพื่อเข้าไปช่วย พบผู้ชายวัยกลางคนนอนหมดสติอยู่ริมทาง กลิ่นเหล้าเหม็นคละคลุ้งพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น กระทั่งสังเกตุเห็นว่ามีอาวุธปืนอยู่ที่เอวจึงรีบหยิบออกแล้วโยนเข้าป่า เพราะเกรงว่าเจ้าตัวจะฟื้นขึ้นมาก่อเหตุไม่คาดฝัน ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาถึงจึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ขณะที่ ผู้ชายวัยกลางคนให้การอ้างว่า เป็นสิ่งเทียมอาวุธ เก็บมาจากถังขยะ เคยถูกทำร้ายอาการหนัก จึงต้องพกไว้ป้องกันตัว ไม่มีเจตนาจะไปทำร้ายหรือโชว์ใคร โดยก่อนจะเกิดเหตุ ได้ขี่จักรยานยนต์ตามวัยรุ่นที่เอาทรัพย์สินของตนเองไป แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
เบื้องต้น ตำรวจสายตรวจ สภ.หนองปรือ ได้ควบคุมตัวผู้ชายวัยกลางคนรายนี้ พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หนึ่งกระบอก เมื่อสอบถามชื่อก็พยายามพูดบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดใด อย่างไรก็ตาม ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป