วันนี้ (10 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวน ตำรวจภูธร ภาค 9 (รอง ผบก.สส.ภ.9) นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภ.9 และ กำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 ไปล้อมบ้าน ในพื้นที่ ม.6 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังสืบสวนพบว่า นายกิตติพศ น้ำผุด หรือ เกมส์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ลงวันที่ 15 ส.ค. 67 ข้อหา“ร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาตัวบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีไป โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือหน่วงเนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด” และเป็นบุคคลตามหมายจับในบัญชีประกาศสืบจับ อัตราเงินสินบนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2568 ลำดับที่ 189 จำนวน 80,000 บาท หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของแฟนสาว
โดยตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าปิดล้อมและขอตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว กระทั่ง นาย กิตติพศ และแฟนสาว ยอมเปิดประตูบ้านออกมา ตำรวจจึงแสดงหมายค้นและหมายจับ ซึ่ง นายกิตติพศ ยอมรับเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.สารภี ก่อนควบคุมตัวจาก จ.เชียงใหม่ ไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.ละงู จ.สตูล ดำเนินคดี
สำหรับ นายกิตติพศ มีประวัติอาชญากรรมโชกโชน โดยปี 2553 ถูก ตำรวจ สภ.เมืองตรัง จับกุม ข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทศ ปี 2556 ถูกตำรวจ สภ.กันตัง จับกุม ข้อหา ขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือ จักรยานยนต์สารธารณะแล้วเสพยาเสพติด เสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง จับกุมข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จากนั้น วันที่ 16 ต.ค. 58 ก่อเหตุเปิดศึกดวลปืนกับคู่อริ หน้าศาลเจ้าพ่อหมื่นราม ถ.รัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ในงานถือกินเจ ทำให้มีผู้เจ็บสาหัส 2 คน ซึ่งหลังก่อเหตุก็ถูกตำรวจ สภ.เมืองตรัง จับกุมได้ และ ปี 2557 ตำรวจ สภ.เมืองตรัง จับกุมข้อหา มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ ปีเดียวกัน ถูกตำรวจ สภ.นาโยง จับกุม ข้อหา ผลิต นำเข้า จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1
จากนั้น วันที่ 6 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 22.30 น. นาย กิตติพศ กับพวก รวม 5 คน ขับรถยนต์กระบะ ไปจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ใน ม.3 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล แล้วไปนำตัวหญิงสาวออกมาจากบ้าน โดยข่มขู่ว่าให้ขึ้นรถไปด้วยโดยดี อย่าให้ต้องใช้กำลังทำร้ายร่างกาย หญิงคนดังกล่าวจึงต้องจำใจยอมออกจากไปกับกลุ่มคนร้าย แล้วถูกพาตัวไปที่คอกวัว ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จากนั้นก็บังคับให้โทรศัพท์ติดต่อ นายอภิสิทธิ์ ให้มาพบที่คอกวัว เพื่อเจราจาปัญหาส่วนตัว กระทั่งวันที่ 7 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 01.00 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางไปที่คอกวัวที่เกิดเหตุ พร้อมพวกรวม 3 คน แล้ว นายเบียร์ หนึ่งในคนร้ายได้ทำร้ายร่างกาย นายอภิสิทธิ์ โดยใช้ไม้เบสบอลตีทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ และ นายเอ็ม คนร้ายอีกคน ใช้อาวุธปืนจ่อและตบที่ศีรษะ 1 ครั้ง ขณะที่ นายมิ้น เตะที่ลำตัวหลายครั้ง เพื่อขู่บังคับให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คน หาเงินมาให้กลุ่มคนร้าย เพื่อแลกกับการปล่อยตัวกลับ
ต่อมาบังคับให้หญิงที่อุ้มตัวไปถอดสร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น, จี้ทองคำ จำนวน 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 1 เส้น และ แหวนทองคำ จำนวน 1 วง ให้กลุ่มคนร้าย และ นายบิ๊ก ไปค้นรถยนต์ที่ นายอภิสิทธิ์ ขับไปหา ก็ยึดเงินสด จำนวน 18,000 บาท และโทรศัพท์ไอโฟน 13 จำนวน 1 เครื่อง ไปด้วย จากนั้นกลุ่มคนร้ายยังขู่บังคับให้ นายอภิสิทธิ์ โทรศัพท์กลับมาหาญาติ ให้หาเงินจำนวน 550,000 บาท ไปไถ่ตัวคืน หากได้เงินไม่ครบตามจำนวน จะไม่รับรองความปลอดภัย พร้อมกับทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดแทง นายอภิสิทธิ์ ที่ต้นขาซ้าย และต้นแขนซ้ายจนบาดเจ็บ แล้วยังนำตัวหญิงคนดังกล่าวไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มที่ธนาคาร 2 แห่ง ในเมืองพัทลุง จำนวน 150,000 บาท จากนั้นนำตัวหญิงคนนี้กลับไป จ.ตรัง พร้อมขู่บังคับให้ผู้เสียหายหาเงินให้ครบ เพื่อแลกปล่อยตัว และยังข่มขู่ หากไม่ครบก็จะส่งตัวไปประเทศเมียนมา ก่อนที่ญาติจะเจ้งความและมีการติดตามจับกุมดังกล่าว
