วันนี้ (12 ต.ค.68) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจแบบแจก ช่วยจริงหรือแค่ชั่วคราว” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,203 คน ระหว่างวันที่ 7-10 ต.ค.68 พบว่า คำถามแรกคืดว่านโยบายเศรษฐก จของรัฐบาลอนุทินเป็นแบบใด กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 29.51 มองว่าเน้นแจกเงินหรือช่วยเฉพาะหน้า ร้อยละ 28.26 มองว่ายังไม่มีแรวทางที่ชัดเจน ร้อยละ 21.86 มองว่าทั้งแลกและพัฒนาไปพร้อมกัร และร้อยละ 20.37 มองว่าเป็นการสร้างงานและเพิ่มรายได้ใยระยะยาว
เมื่อถามว่า นโยบายแบบ “แจกเงิน–ลดภาระชั่วคราว” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น ความเห็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.72 มองว่าช่วยได้ระยะสั้น ร้อยละ 11.64 เชื่อว่าช่วยได้มาก และอีกร้อยละ 7.64 เชื่อว่าไม่ได้ช่วยเลย
ถ้ารัฐบาลมีงบประมาณจำกัด ประชาชนอยากให้ใช้กับเรื่องใดมากที่สุด พบว่า ร้อยละ 53.72 ต้องการให้ลงทุนจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติเช่น น้้าท่วม ภัยแล้ง ร้อยละ 51.96 ต้องการให้ใช้พัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ระยะยาว และร้อยละ 49.37 ต้องการให้ลงทุนโครงสร้าง กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม

สำหรับปัญหาน้ำท่วม คิดว่าควรแก้ปัญหาอย่างไรจึงจะคุ้มค่าและยั่งยืน อันดับ 1 ร้อนละ 67.17 ต้องการให้จัดทำแผนบริหารจัดการน้้าแบบบูรณาการระดับประเทศ
ประเด็นสุดท้าย ณ วันนี้กลุ่มตัวอย่างคิดว่าพรรคการเมืองที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้คือ พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 19.87 รองลงมาคือ พรรคประชาชน ร้อยละ 17.37 และยังไม่เชื่อพรรคใด ร้อยละ 16.63 ส่วนพรรคเพื่อไทย รั้งเป็นอันดับที่ 4 ร้อยละ 13.13
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจชี้ว่าประชาชนมองนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทิน เป็นการ “เยียวยาเฉพาะหน้า” แม้จะบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง แต่ยังต้องการให้รัฐบาลวางแผนแก้ปัญหาระยะยาวโดยเฉพาะ “ปัญหาน้้าท่วม” ที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานราก เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แม้พรรคภูมิใจไทยจะนำมาในการสำรวจครั้งนี้ แต่ก็เป็นความคาดหวังต่อรัฐบาลโดยตรง และส่วนหนึ่งก็ยังคงไม่มั่นใจในพรรคการเมืองใดอย่างชัดเจน
ผศ.ดร.สมศักดิ์ เจริญพูล ประธานหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า รัฐบาลอนุทินได้ประกาศไว้ว่าจะยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังจากจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ดังนั้นจากผลโพล ประชาชนจึงคาดหวังผลด้านเศรษฐกิจในระยะสั้นจากรัฐบาลเท่านั้น อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าประชาชนก็ยังคาดหวังให้รัฐบาลมีการดำเนินการในระยะยาวทั้งทางด้านการพัฒนาอาชีพ การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นซ้้าซาก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจัดการน้้า และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมให้เจริญเติบโต มั่นคง และมีการกระจายรายได้อย่างเหมาะสม