ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ปู่น้องน้ำโขง อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิตจากการถูกจรวด BM-21 ของกัมพูชายิงตกใส่บ้านในจังหวัดสุรินทร์ มีคำถามฝากไปถึง "คุณอังคณา" นักสิทธิมนุษยชน
นายสุธีร์ บุญแต่ง ปู่ของเด็กชายธิติวัฒน์ หรือ น้องน้ำโขง อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิต พร้อมกับญาติอีก 1 คน จากการถูกจรวด BM-21 ของทหารกัมพูชา ยิงตกใส่บ้านในพื้นที่ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ออกมาพูดถึงเรื่องที่มีกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนออกมาโจมตีเรื่องการเปิดเครื่องเสียงรถแห่ใส่ชาวบ้านกัมพูชา ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายสุธีร์ เลยมีคำถามฝากไปยัง สว.อังคณา หรือ นางอังคณา นีละไพจิตร นักสิทธิมนุษยชน ว่า ได้ทราบเรื่องราวการเสียชีวิตของน้องน้ำโขงหรือไม่ แล้วทำไมไม่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบ หรือไม่ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่ UN หรือไปฟ้องศาลโลก เหมือนกับที่ออกมาเรียกร้องให้เห็นใจชาวกัมพูชา
นายสุธีร์ ยังได้ฝากไปถึง "กัน จอมพลัง" ว่าทำดีแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้เคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือทหารไทย และคนไทยผู้รักชาติ รักแผ่นดิน ต่อไป
ส่วนเรื่องการฟื้นฟูชาวบ้านหลังถูกยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ และจรวด BM-21 เข้ามาตกที่หมู่บ้านซำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านพังเสียหายไป 1 หลัง ได้รับการสร้างใหม่จนเกือบเสร็จแล้ว โดยมีนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษมาช่วยทำบ้านใหม่ให้เจ้าของบ้าน เป็นคนซื้อวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่วนที่หมู่บ้านภูมิชรอลที่อยู่ใกล้กัน บ้านที่พังเสียหาย 3 หลัง นักศึกษาก็เข้าไปช่วยสร้างบ้านจนใกล้เสร็จแล้วเช่นกัน
วันนี้ นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้นิมนต์ พระครูโกศล สิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุทธ วายาโม เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา นำเหรียญหลวงปู่สรวงไปแจกให้กับชาวบ้านและทหารที่อยู่ตามแนวชายแดน และมอบผ้ายันต์กันกระสุนปืนใหญ่ พร้อมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปมอบให้กับเจ้าของบ้านทั้ง 3 หลัง เพื่อความเป็นสิริมงคล และใช้ป้องกันลูกกระสุนปืนใหญ่หากมีการปะทะกันอีกครั้ง
กำนันตำบลเสาธงชัย บอกว่า ตอนนี้สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มคลี่คลาย แต่ชาวบ้านก็ยังเฝ้าระวังกันอยู่ ไม่หนักหนาเหมือนเมื่อช่วงแรก พอได้รับเงินเยียวยาทำให้ผ่อนคลายไปเยอะ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกถึงเงินเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้คณะกรรมการพิจารณาเพิ่มเติม เพราะมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่แล้วได้จัดอุดหนุนเงินเยียวยาเพียงครั้งเดียว แต่ในความเป็นจริงมีการอพยพหลายครั้ง จึงให้มีการไปปรับปรุงทบทวนเกณฑ์ใหม่สำหรับการที่จะอุดหนุนเงินเยียวยาให้กับผู้อพยพจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยที่ผ่านมาได้ครอบครัวละ 2,000-5,000 บาท