"ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ตำนานที่มีลมหายใจ

View icon 44
วันที่ 14 ต.ค. 2568 | 16.44 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โลกโซเชียลฯ วิจารณ์พฤติกรรมของผู้นำเที่ยว และลูกทัวร์ คาดว่าเป็นชาวจีน ที่ด่าทอกันอย่างแรง บอกว่า สั่งให้ลูกทัวร์ลงไปซื้อของฝาก ตามร้านที่แจ้งพิกัด ใครไม่ทำตาม ไม่ต้องกลับจีน (คลิป)

เราไม่ทราบว่าชายที่ด่ากราดคนนี้ คือใคร เป็นคนจีน หรือคนไทยที่พูดภาษาจีนได้ และก็ยังไม่ทราบว่าเขาเป็น ไกด์ เจ้าของทัวร์ หรือ ผู้ประสานงาน แต่ท่าทาง สีหน้า แววตา น้ำเสียงที่ขึงขัง ชวนให้ลูกทัวร์ชาวจีนผวา สั่งให้ลูกทัวร์ลงไปซื้อของฝากตามร้านที่แจ้งพิกัดไว้ หากใครไม่ทำตามจะทำให้คืนนี้ ไม่ได้กลับจีนเลย

คลิปนี้ถูกโพสต์ลงโซเชียลฯ ของจีนเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) บนเว็บไซต์ Weibo พร้อมแคปชันว่า "ไกด์ไทย มีพฤติกรรมหยาบคาย ด่านักท่องเที่ยวจีน บอกว่าถ้าไม่ใช่เงิน จะไม่ให้กลับจีน"

และมีคอมเมนต์จากชาวเน็ตจีนโต้แย้ง บอกว่าไกด์เป็นคนไทยแน่หรือ ? ฟังจากสำเนียงและรูปลักษณ์แล้ว น่าจะเป็นคนจีนด้วยกันเองมากกว่า

ขณะเดียวกัน คลิปนี้ถูกนำมาเผยแพร่ในไทย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า "ไกด์ในคลิปไม่ใช่คนไทยอย่างแน่นอน โดยพฤติกรรมดังกล่าว เรียกว่า "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" โดยมีข้อมูลว่า อาชีพไกด์ เป็นอาชีพสงวนของคนไทย ต่างชาติไม่มีสิทธิเข้ามาประกอบอาชีพนี้ และทำได้เพียงเป็นล่ามช่วยแปลภาษาเท่านั้น

ทีมข่าวสอบถามไปยัง กรรมการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ทัวร์ศูนย์เหรียญทำให้ภาพลักษณ์ของไทยเสียหาย ชาวจีนบางคนเลือกที่จะไม่มาไทย เพราะกลัวตกเป็นเหยื่อของขบวนการจีนเทา

ที่ผ่านมา ทัวร์ศูนย์เหรียญ ไม่เคยหายไป แต่มันดำเนินการอย่างเงียบ ๆ จนไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมนักท่องเที่ยวจีนถึงหดหาย

สอดคล้องกับข้อมูลของ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ทัวร์เหล่านี้เป็นบ่อนทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย เนื่องจากทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไร้ความปลอดภัย และไม่อยากเดินทางมาเที่ยวไทย

ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกว่า หลังทราบเรื่อง ได้สั่งการให้กรมการท่องเที่ยวเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งสถานที่เกิดเหตุ ช่วงเวลา บริษัททัวร์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรูปแบบตารางการท่องเที่ยว หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง จะต้องมีมาตรการลงโทษ

ล่าสุด ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว ได้เข้าตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวของไทยแห่งหนึ่ง ย่านร่มเกล้า แล้ว โดย ตำรวจท่องเที่ยว ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบริษัทแห่งนี้จัดทัวร์ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวของจีน โดยส่วนของไทยมีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องทั้งหมด

แต่ส่วนคนที่ดูเหมือนไกด์ชาวจีน ได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่ไกด์ แต่เป็นทีมงานของบริษัทนำเที่ยวจีน ที่มาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทัวร์ ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ "มัคคุเทศก์" ชาวไทยที่อยู่ในเหตุการณ์

ให้ข้อมูลว่า เป็นเหตุการณ์หลังจากช่วงที่ซื้อของเสร็จแล้ว กำลังจะเดินทางกลับ ชายคนนี้เกิดมีปากเสียงกับหนึ่งในลูกทัวร์จึงเหตุการณ์ขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีการบังคับซื้อสินค้า และไม่มีการกักขังลูกทัวร์แต่อย่างใด อีกทั้งชายคนนี้ก็เดินทางกลับไปพร้อมกับลูกทัวร์คนอื่น ๆ แล้วเช่นกัน

เรื่องการดำเนินคดีต้องรอดูอีกทีว่าจะไปถึงขั้นนั้นหรือไม่ เพราะไม่มีใครแจ้งความ และปัจจุบันกฎหมายไทยก็ยังไม่มีบทบังคับกับไกด์ที่มีต้นสังกัดอยู่ในต่างประเทศ แต่หากพบมีความผิดใดเกิดขึ้นตามกฎหมายไทย ก็จะดำเนินคดีทุกข้อหาแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในโซเชียลฯ ของจีน มีการแชร์ภาพนี้จนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่า ชื่อ "หลี่" เคยถูกตำรวจไทยดำเนินคดีมาแล้วเมื่อปี 2017 ตามข้อมูลอ้างว่าเขากลับมาก่อเหตุทำนองนี้อีกครั้ง พร้อมกลยุทธ์ "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ที่เขาจะพาไปบังคับซื้อสินค้า แลกกับผลประโยชน์ที่ตกลงไว้กับร้านค้าต่าง ๆ