สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 14 ต.ค.68

สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 14 ต.ค.68

View icon 189
วันที่ 14 ต.ค. 2568 | 18.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 14 ต.ค.68

1.สส.เกาหลีใต้ ไม่พอใจ ขอรัฐบาลเด็ดขาดกับกัมพูชา
จากกรณีที่มีการโพสต์พาสปอร์ตหลายสัญชาติ ถูกทิ้งในถังขยะในประเทศกัมพูชา สะท้อนปัญหาความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกัมพูชา ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ประกอบกับกรณีที่นักศึกษาชายชาวเกาหลีใต้อายุ 22 ปีถูกแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีนในกัมพูชา ลักพาตัวเรียกค่าไถ่และทรมานจนเสียชีวิต สร้างความกังวลและไม่พอใจให้กับ สส.เกาหลีใต้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเป็นอย่างมาก

ในการประชุมคณะกรรมาธิการรัฐสภาวานนี้ จึงมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ของประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวตอบโต้กัมพูชา ที่ปล่อยปละละเลย จนคดีลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เฉพาะ 8 เดือนแรกปีนี้พุ่งสูงถึง 330 คดี เพิ่มขึ้นถึง 80 เท่าในช่วงเวลาเพียง 3 ปี เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ  รัฐบาลจึงควรมีมาตรการตอบโต้อย่างริงจังเพื่อรับประกันความปลอดภัยของชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา

ที่ผ่านมากัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศได้ประโยชน์จากโครงการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก แต่รัฐบาลกัมพูชากลับปล่อยปละละเลยไม่มีการแก้ปัญหาเรื่องแก๊งสแกมเมอร์, แก๊งค้ามนุษย์และการลักพาตัวเรียกค่าไถ่อย่างจริงจัง ดังนั้นนอกจากการใช้แนวทางการทูตและการส่งตำรวจไปช่วยทำคดีแล้ว อาจจำเป็นต้องส่งกำลังทหารไปปราบปรามร่วมกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ซึ่งหากรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือ ควรระงับโครงการช่วยเหลือกัมพูชาทั้งหมด

2.“ไบเดน” ชม “ทรัมป์” ช่วยจน “ฮามาส” คืนตัวประกัน
อดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้โพสต์แสดงความชื่นชมประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และทีมงาน ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้ “กลุ่มฮามาส” ยอมคืนตัวประกันที่เหลือทั้งหมดคืนอิสราเอล และชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจะมีโอกาสสร้างชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยหวังว่าด้วยการสนับสนุนจากสหรับฯ และประเทศทั่วโลก จะนำไปสู่สันติภาพอย่างถาวรในตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตามสื่อหลายสำนักมองว่า แม้กลุ่มฮามาสกับอิสราเอลจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรก แต่การยุติการสู้รบระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายอย่างถาวร ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากอิสราเอลยังคงเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปลดอาวุธ รวมทั้งทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้เรื่องตัวกลางที่จะเข้ามาดูแลฉนวนกาซา

3.เหยื่อถูกทรมานดับแทบทุกวัน ในศูนย์สแกมเมอร์เขมร
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ อ้างแหล่งข่าวชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งที่เคยตกเป็นเหยื่อศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชา ซึ่งอ้างว่า เคยเห็นเหยื่อชาวเกาหลีใต้ถูกทรมานและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตมาแล้ว หากคิดหลบหนี แจ้งความหรือทำยอดเงินจากการหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติไม่ได้ตามเป้า มักถูกนำตัวไปทรมาน

โดยรูปแบบการทรมาน อาทิการทุบตี, การดึงเล็บหรือตัดนิ้ว รุนแรงที่สุดคือการบังคับให้ขายอวัยวะ ซึ่งบางกรณีเลวร้ายถึงขั้นควักลูกตาเหยื่อออก เพื่อเอากระจกตา ซึ่งปลูกถ่ายได้ค่อนข้างง่าย และได้ราคาดี

นอกจากนี้เหยื่อบางรายที่ทำงานไม่ได้ตามเป้า จะถูกขายให้กับแก๊งสแกมเมอร์อื่น ๆ ซึ่งในกัมพูชามีอยู่ประมาณ 400 แก๊ง ครอบคลุมหลายจังหวัด เหยื่อหลายคนถูกขายต่อจากศูนย์สแกมเมอร์ในกรุงพนมเปญหรือสีหนุวิลล์ ไปยังพื้นที่ชายแดนเช่นปอยเปต

ไม่ใช่เฉพาะชาวเกาหลีใต้เท่านั้น ที่ตกเป็นเหยื่อของศูนย์สแกมเเมอร์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ยังมีนักท่องเที่ยวอีกหลายเชื้อชาติที่ตกเป็นเป้าหมายในการลักพาตัวของขบวนการค้ามนุษย์ในศูนย์สแกเมมเอร์ ทั้งชาวไทย, เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีน เพื่อให้หลอกลวงเพื่อนร่วมชาติและยึดหรือเอาบัญชีธนาคารของเหยื่อใช้เป็นบัญชีม้า

4.ทองคำราคาพุ่งทำลายสถิติต่อเนื่อง
ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในวันนี้  (14 ต.ค.68) จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 100 % ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ส่งผลนักลงทุนกังวลสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (safe-haven) มีความต้องการขึ้น ขณะที่แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็เป็นปัจจัยหนุน ให้ราคาทองคำพุ่งต่อเนื่อง ราคาทองคำตลาดโลกวันนี้เพิ่มขึ้น 0.4 % อยู่ที่ 4,124.79 ดิอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,131.52 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 132,200 บาทต่อออนซ์ ขณะที่ราคาเงินก็แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ที่ราคา 52.70 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 1,680 บาทต่อออนซ์

ทั้งนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้น 57% นับตั้งแต่ต้นปี จากความกังวลสงครามการค้าและการสู้รบในหลายพื้นที่ทั่วโลก ทำให้นักวิเคราะห์บางสำนักคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะแตะระดับ 5,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 160,000 บาทต่อออนซ์ภายในปี 2569

5."ทรัมป์" จ่อร่วมประชุมอาเซียน หวัง ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิง
นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนมาเลเซียในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เพื่อร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยตั้งตารอที่จะได้เห็นข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน แต่ความสัมพันธ์ยังตึงเครียด เรื่องข้อพิพาทบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ จนถึงขั้นมีการโจมตีทางทหารนาน 5 วันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 48 คน และทำให้ผู้คนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่นฐานชั่วคราว ถือเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดของไทยกับกัมพูชาในรอบกว่าทศวรรษ

นายฮาซันเผยว่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน ระหว่างวันที่ 26 ถึง 28 ตุลาคมนี้ เราหวังว่าจะได้เห็นการลงนามในปฏิญญาข้อตกลงหยุดยิงที่เรียกว่า ข้อตกลงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อให้เกิดสันติภาพและการหยุดยิงอย่างถาวร ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ หวังที่จะเห็นข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทำเนียบขาวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้หรือไม่