เช้านี้ที่หมอชิต - เรือยนต์ล่มกลางแม่น้ำป่าสัก คนขับเรือว่ายน้ำหนีตาย ส่วนภรรยาตั้งครรภ์ 7 เดือน สูญหาย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหายังไม่พบ
นาทีระทึก เรือยนต์เสียหลัก จมกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณพื้นที่หมู่ 3 ตำบลปากจั่น อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายศิราวุฒิ อายุ 24 ปี คนขับเรือ ว่ายน้ำหนีตายกลับมาได้อย่างปลอดภัย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ใช้เรือลากจูง 5 ลำ ดึงเรือที่จมอยู่ในน้ำ กลับเข้าฝั่ง เปิดทางให้นักประดาน้ำเข้าค้นหา นางสาวเพ็ญนภาพร ตั้งครรภ์ 7 เดือน ที่สูญหาย
นายศิราวุฒิเฝ้ามองนักประดาน้ำค้นหาภรรยา ด้วยความเป็นห่วง เล่าว่า ตนเองเป็นเรือคัดท้าย ด้านหน้ามีเรือยนต์ 5 ลำ ลากเรือบรรทุก 3 โป๊ะ เดินทางจากท่าน้ำวัดพนัญเชิง มาส่งยังท่าเรือจัมโบ้ ถึงจุดเกิดเหตุ ขณะเข้าโค้งเรือด้านหน้าดึงเชือกเรือของตนเองจนตึง ทำให้เรือเสียหลัก จมลงแม่น้ำ ตนเองเปิดประตูหนีออกมาได้ พยายามตะโกนให้แฟนอยู่ท้ายเรือกระโดดลงน้ำ แต่ไม่ทัน
นายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เผยว่า วันนี้เป็นการเปิดจราจรทางน้ำวันที่ 2 เรือที่ประสบเหตุเป็นพวงที่ 10 ที่แจ้งว่าจะเข้าเทียบท่า สาเหตุคาดเกิดจากไม่เข้าใจเส้นทาง ระหว่างเข้าโค้งมีการดึงเชือกลากพ่วง จึงทำให้เรือคัดท้ายเสียหลัก
และนี่เป็นภาพบรรยากาศเมื่อคืนที่ผ่านมา บริษัทกู้เรือ นำเครนขนาดใหญ่เข้ายกเรือที่ล่มในแม่น้ำ ใช้สลิงผูกตัวเรือหลายจุดเพื่อเวลาที่ยกเรือจะได้ไม่แกว่ง เรือหนักกว่า 40 ตัน นักประดาน้ำต้องดำน้ำ ลงไปผูกสลิง และปรับตำแหน่งหลายครั้ง
นายศิราวุฒิ สามีผู้สูญหาย จุดธูปขอขมาแม่คงคา แม่ย่านางเรือ เจ้าที่เจ้าทาง ขอให้ให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างปลอดภัย และได้เจอภรรยาโดยเร็ว พร้อมกล่าวบนบานหากภรรยาปลอดภัยจะบวชทดแทน
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลา 6 ชั่วโมง กู้เรือขึ้นจากน้ำได้สำเร็จ ตรวจสอบเบื้องต้นพบกระจกหน้าเรือแตกเสียหาย ข้าวของเครื่องใช้ในเรือกระจัดกระจาย ตัวเรือเสียหายบางส่วน แต่ไม่พบผู้สูญหายในตัวเรือ
นักประดาน้ำกว่า 10 คน ระดมค้นหาผู้สูญหาย ตั้งแต่จุดที่เรือจม ล่องไปตามกระแสน้ำ มีความลึก 15 เมตร และมีเรือลาดตระเวนช่วยค้นหาตาม 2 ฝั่งแม่น้ำป่าสัก แต่ก็ยังไม่พบ
พี่สาวและย่าของผู้สูญหาย หลังทราบข่าว เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ มายังจุดเกิดเหตุด้วยความเป็นห่วง นายศิราวุฒิได้เข้าไปกราบขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะญาติโกรธที่เจ้าตัวหนีออกจากเรือเพียงลำพัง
นายบวร วงศ์แซ่ฮ้อ ขับเรือมานานกว่า 40 ปี ยืนยันจุดเกิดเหตุกระแสน้ำไม่แรง เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากแรงดึงของเรือยนต์ที่อยู่ข้างหน้า เพื่อเข้าโค้ง ทำให้เรือคัดท้ายเสียหลัก เชือกอาจจะตึงเกิดพลิกจมลงอย่างรวดเร็ว
