กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานพระนโยบายแก่ ผบ.ทบ. จัดสร้างบังเกอร์-หลุมหลบภัย สร้างความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานพระนโยบายแก่ ผบ.ทบ. จัดสร้างบังเกอร์-หลุมหลบภัย สร้างความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน

View icon 73
วันที่ 15 ต.ค. 2568 | 09.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  พระราชทานพระวโรกาสให้ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ เฝ้า รับพระราชทานพระนโยบายโครงการให้การสนับสนุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตความมั่นคงปลอดภัยบริเวณพื้นที่ชายแดน

เวลา 9 นาฬิกา 50 นาที วานนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุมชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายบริหารและผู้อำนวยการสำนักองค์ประธาน นำพลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยคณะผู้แทนกองทัพบก  เฝ้ากราบทูลถวายรายงานโครงการสนับสนุน กองทุนหทัยทิพย์ กองทัพบก

ตามที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงจัดตั้ง กองทุนหทัยทิพย์ ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ ขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 โดยทรงเป็นประธานกรรมการบริหารกองทุน ด้วยทรงห่วงความปลอดภัยของกำลังพลแนวหน้าและประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดน จึงเห็นควรสนับสนุนการสร้างกำแพงและบังเกอร์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการเร่งด่วน

โดยกองทัพบกได้สนองพระดำริ จัดตั้งคณะทำงานโครงการสนับสนุน “กองทุนหทัยทิพย์” กองทัพบก โดยมี พลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ  เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของกองทุนหทัยทิพย์อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนและประเทศชาติ ทรงเล็งเห็นถึงภัยคุกคามในหลายรูปแบบ ทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบ ภัยธรรมชาติ ความขัดแย้ง และสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นแนวหน้าของการรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติ

ในการนี้ พลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ ได้กราบบังคมทูลถวายรายงานรายละเอียดของแผนการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นที่ความจำเป็นเร่งด่วนแรก ได้แก่ การเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้แก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี และกองกำลังบูรพา

จากการสำรวจความต้องการในพื้นที่พบว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดสร้างและปรับปรุงสิ่งป้องกันภัย ประกอบด้วย การปรับปรุงที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) ภายในฐานปฏิบัติการของหน่วยทหาร รวม 799 แห่ง ในพื้นที่รับผิดชอบของ กองกำลังสุรนารี 727 แห่ง และกองกำลังบูรพา 72 แห่ง รวมถึงจัดสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน รวม 173 แห่ง แบ่งเป็น กองกำลังสุรนารี 167 แห่ง ขนาดความจุ 40-60 คน และกองกำลังบูรพา 6 แห่ง ขนาดความจุ 30 คน

ในการนี้ ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้กองทัพบก สนับสนุนการจัดสร้างหลุมบุคคล 50 หลุม สำหรับใช้เป็นที่มั่นกำบังของกำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ และสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน 8 แห่ง เพื่อเป็นการดูแลช่วยเหลือ ทั้งทหารและประชาชน อย่างเร่งด่วนสำหรับใช้เป็นต้นแบบในห้วงแรกนี้ก่อน

นอกจากนี้ ยังมีพระดำรัสถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการกองทุนหทัยทิพย์ และความมุ่งมั่นพระทัยเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
.
สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังปกป้องอธิปไตยของชาติ เพื่อสนับสนุนการสร้างกำแพงและบังเกอร์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กับ “กองทุนหทัยทิพย์” ผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาหลักสี่พลาซ่า ชื่อบัญชี เงินกองทุนหทัยทิพย์ ประเภทบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 229-3-03266-6 และประเภทบัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี 229-4-29977-7 หรือสแกน QR Code ผ่านระบบ e-Donation เงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรือสอบถามรายละเอียด สำนักงานกองทุนหทัยทิพย์ ชั้น 1 อาคารวิจัยเคมี สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โทร. 0-2553-8616-19 ในวันและเวลาทำการ

68ef09e9e9aa29.86751177.jpg

ข่าวที่เกี่ยวข้อง