สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 15 ต.ค.68

สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 15 ต.ค.68

View icon 38
วันที่ 15 ต.ค. 2568 | 17.59 น.
News
แชร์
Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 15 ต.ค.68

1.กัมพูชา โต้ ปมชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัว-กักขัง
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (14 ต.ค. 68) ทางประธานาธิบดี อี แจ-มยอง แห่งเกาหลีใต้ สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร, ตำรวจ และหน่วยข่าวกรองฝ่ายความมั่นคง เข้าช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ประมาณ 80 คน ที่ถูกหลอกลวงหรือลักพาตัวไปหน่วงเหนี่ยวกักขังตัวในประเทศกัมพูชา ให้ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย หลังเกิดเหตุนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ อายุ 22 ปี ถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่และทรมานจนเสียชีวิต

โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ จะนำทีมเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อประสานงานกับทางการกัมพูชา ในการส่งตัวชาวเกาหลีใต้ที่ถูกลักพาตัวหรือถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังกลับประเทศ และร่วมสอบสวนคดีการเสียชีวิตของนักศึกษาที่เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ยอมรับว่า การเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งเป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ในกัมพูชาจริง แต่กัมพูชาไม่ได้ปล่อยปละละเลย ที่เรื่องดูช้าเพราะก่อนหน้านี้ผู้ปกครองของนักศึกษาคนดังกล่าวไม่ได้แจ้งคนหาย ส่วนกรณีชาวเกาหลีใต้ 80 คน ซึ่งมีรายงานว่าถูกกักขังอยู่ในศูนย์สแกมเมอร์กัมพูชา ทางกัมพูชาขอปฏิเสธเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาได้ควบคุมตัวชาวเกาหลีใต้ที่เข้ามาท่องเที่ยวและทำงานไว้แล้ว 80 คน และทั้งหมดปฏิเสธที่จะเดินทางกลับประเทศ เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับชาวเกาหลีใต้ที่มีรายงานถูกลักพาตัวไปกักขัง

จากข้อมูล 8 เดือนของปีนี้ มีชาวเกาหลีใต้ 330 คน ขาดการติดต่อหรือถูกกักขังในประเทศกัมพูชา ซึ่งปิดคดีไปแล้ว 260 คน และยังเหลือ 80 คน ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด

2.สายการบินเวียดนามเจอแฮกเกอร์ล้วงข้อมูล
สายการบินเวียกนามแอร์ไลน์ส ( Vietnam Airlines) ออกแถลงการณ์ขออภัยลูกค้า จากกรณีที่มีแฮ็กเกอร์เจาะระบบล้วงข้อมูลของลูกค้า แล้วอ้างว่าเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารกว่า 23 ล้านราย ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล วันเกิด หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ซึ่งเป็นข้อมูลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส จึงร่วมกับภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด และตรวจขอบเขตของความเสียหาย และยกระดับมาตรการป้องกันข้อมูลเพิ่มเติม โดยยืนยันว่า ข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลการชำระเงิน รหัสผ่าน กำหนดการเดินทาง ยอดคงเหลือในบัตรสมาชิกและรายละเอียดหนังสือเดินทางยังคงปลอดภัย นอกจากนี้ระบบข้อมูลสารสนเทศภายในของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ยังไม่ได้รับผลกระทบ

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2559 สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์สเคยถูกแฮ็กเกอร์โจมตีระบบมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยล้วงข้อมูลสมาชิกกว่า 4 แสนราย และทำให้ระบบเช็กอินผู้โดยสารบางสนามบินหยุดชะงัก ส่งผลให้เที่ยวบินนับร้อยเกิดความล่าช้า

3.เพลิงไหม้รถบัสในอินเดีย ตายอย่างน้อย 20 คน
เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสเอกชน ซึ่งกำลังเดินทางจากเมืองไจซัลเมอร์ไปยังเมืองโชธปุระ ในรัฐราชสถานทางตอนเหนือของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารอยู่บนรถ 57 คน หลังจากมีควันพวยพุ่งออกจากท้ายรถคนขับได้จอดรถข้างทาง แต่ปรากฎว่าเปลวเพลิงกลับลุกลามเข้าไปจนครอบคลุมตัวรถภายในเวลาอันรวดเร็ว หลายคนจึงออกมาจากรถไม่ทัน นอกจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้อย่างรุนแรงอีกถึง 15 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 คน ที่มีแผลไฟไหม้ตามร่างกายถึง 70 % สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากระบบไฟฟ้าท้ายรถลัดวงจร

หลังเกิดเหตุ นเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดียโพสต์แสดงความเสียใจกับผู้ได้รับผลกระทบและครอบครัว และจะเร่งจ่ายเงินบรรเทาทุกข์ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 แสนรูปีและผู้บาดเจ็บ 5 หมื่นรูปี

4.วิกฤต ! น้ำมันขาดแคลนในโบลิเวีย
โบลิเวียกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนทางเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของประชาชน โดยตามเมืองใหญ่ ๆ ผู้คนจำนวนมากต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอเติมน้ำมันดีเซลและเบนซิน บางคนต้องรอชนิดข้ามวันข้ามคืน ถึงขนาดจอดรถนอนใกล้ปั๊มน้ำมัน

โดยสาเหตุหลักมาจากการบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ค้างจ่ายชำระเงินให้กับผู้ค้า กระทบระบบขนส่งสาธารณะในหลายเมือง ซึ่งต้องลดจำนวนเที่ยว ให้บริการประชาชน เนื่องจากไม่มีน้ำมันเพียงพอ ส่งผลให้สหภาพแรงงานขนส่งปิดถนนประท้วง เดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคมนี้

เนื่องจากการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงเกิน 40 % และมีคะแนนนำอย่างน้อย 10 %

5.สหรัฐฯ สั่งยึดทรัพย์ ปธ.บริษัทกัมพูชา เปิดศูนย์สแกมเมอร์
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์ทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสหรัฐฯ-อังกฤษกล่าวหาว่าล่อลวงคนงานด้วยการโฆษณาการจ้างแบบปลอม ๆ หรือมีความสัมพันธ์แบบหลอก ๆ บังคับให้คนงานต้องไปหลอกเอาเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากผู้คนทั่วโลกด้วยการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ จากนั้นก็นำเงินที่ได้มาเข้าสู่กระบวนการฟอกเงิน

ทางกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า พวกเขาได้พุ่งเป้าไปที่บุคคล 146 คนในกลุ่ม Prince Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทกัมพูชา  ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง นายเฉิน จื้อ วัย 38 ปี ผู้นำ Prince Group

นอกจากนี้ยังเผยว่า การฉ้อโกงข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้พลเมืองอเมริกันสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตของพวกเขาหายไปภายในไม่กี่นาที โดยในปี พ.ศ.2567 เพียงปีเดียวมีพลเมืองอเมริกันสูญเสียเงินถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับสแกมเมอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดย นายเฉิน จื้อ ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงและฟอกเงิน ในคำฟ้องที่เปิดผนึกที่ยื่นถึงศาลรัฐบาลกลางในบรูคลิน สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (14 ต.ค. 68) ยึดบิตคอยน์มูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 488 แสนล้านบาท ซึ่งอ้างว่านำไปใช้ในการฟอกเงิน ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการดำเนินการริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์