“เพื่อไทย” เสนอ 7 มาตรการยกระดับปราบคอลเซนเตอร์

“เพื่อไทย” เสนอ 7 มาตรการยกระดับปราบคอลเซนเตอร์

View icon 43
วันที่ 16 ต.ค. 2568 | 15.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“เพื่อไทย” จี้ รัฐบาล ยกระดับมาตรการเชิงรุกปราบคอลเซนเตอร์ จวกอย่าทำแค่หวังคะแนนนิยม-ผลทางการเมือง พร้อมทวงถามความคืบหน้า ปมสินบน 40 ล้าน “ไชยชนก” ลั่นหลักฐานอยู่ในมือไม่ต้องรอครบ 30 วัน

วันนี้ (16 ต.ค.68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงกรณีปัญหาสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติว่า ปัญหานี้เคยได้รับการแก้ไขจนเห็นผลเป็นรูปธรรมในรัฐบาลชุดที่แล้ว กลับมาเป็นปัญหาสำหรับประชาชน และประเด็นใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง สืบเนื่องจากกรณีที่มีการกดดันจากสหรัฐสหราชอาณาจักร และเกาหลีได้ เดินหน้าปราบปรามติดตามขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชาอย่างจริงจัง

พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ยกระดับมาตรการปราบปรามขบวนการกล่าวเพื่อไม่ให้ประเทศไทยส่วนหนึ่งของอาชญากรรม ดังนี้

1.ดำเนินมาตรการ 3 ตัด คือ ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดการขนส่งน้ำมัน เพื่อสกัดศูนย์กลางสแกมเมอร์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอาจพิจารณายกระดับจากโมเดลความร่วมมือระหว่างประเทศไทย จีน เมียนมา ที่สำเร็จมาแล้วในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร

2.กลับมาเข้มงวดเรื่องการปิดเส้นทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลอกลวงเอาคนไทยข้ามไป และการลักลอบหนึกลับเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย

3.เร่งสานต่องานจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่เกี่ยวข้องอื่นเพื่อตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ หรือ ศกค.ระดมความร่วมมือจากนานาประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม แก้ไขขั้นเด็ดขาดช่วยเหลือเหยื่อกลับบ้าน

4.เจรจากดดันเพื่อให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขข้อที่ 3 คือ การร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งอยู่ในเงื่อนไข 4 ข้อเดิมตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.สมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร เคยเสนอไว้ ผ่านการลงนามข้อตกลงสันติภาพในการประชุมอาเซียนซัมมิท วันที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์

5.ให้รัฐบาลกลับมาจริงจังเรื่องของการระงับบัญชีม้า และซิมที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้งที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันว่า เกี่ยวข้อง ตลอดจนการปราบปรามเว็บพนันและเว็บหลอกลวงผิดกฎหมายเพื่อป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ในประเทศ โดยในรัฐบาลชุดที่แล้วก็ได้ไช้มาตรการนี้ในการระงับบัญชีม้ากว่า 5 แสนบัญชี และป้องกันการสูญเสียได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท

6.เร่งออกกฎหมายลำดับรองเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์และ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล

7.ให้รัฐบาลใช้ศูนย์ AOC 1441 ที่ได้ตั้งขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อเป็น One Stop Service ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงออนไลน์แบบแร่งด่วน เพื่อให้เรื่องร้องทุกข์ เรื่องระงับธุรกรรมทางการเงิน และเรื่องการประสานงานกับธนาคารและตํารวจไซเบอร์กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง

เมื่อถามถึง กรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาแฉการสภาฯ ว่า 40 ล้านบาทมีบุคคลยื่นสินบน จำนวน 40 ล้านบาท แลกกับการไม่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายประเสริฐ ย้ำเรื่องนี้ว่า สมัยตอนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ 2 ปี ไม่เคยมีใครมาพูดเรื่องนี้เลย แต่รัฐมนตรีคนใหม่ยังไม่เคยมานั่งในตำแหน่งเลย กลับมีคนมาเสนอเรื่องนี้แล้ว ฉะนั้น เรื่องนี้ที่รัฐบาลบอกว่าจะปราบอย่างจริงจังและบอกว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 30 วันนั้น ความจริงไม่ควรใช้เวลาถึง 30 วันด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้ท่านทราบดีว่าใครเป็นคนให้ข้อมูล นั่นก็คือ สส. 2 คนจากพรรคภูมิใจไทย และมีผู้ช่วยสส.อีกหนึ่งคน เรื่องนี้ต้นตอหาไม่ยาก โดยสิ่งที่รัฐมนตรีรับปาก ว่าจะหาคนผิดให้ได้ภายใน 30 วัน ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้จึงขอทวงถามว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ถึง 30 วันแต่เรื่องนี้ไม่ซับซ้อน เพราะเป็นคนใกล้ตัวนายไชยชนกทั้งสิ้น เพราะสามารถเรียกมาให้การและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง