ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เหยื่อขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ หรือสแกมเมอร์ เปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าตั้งใจไปทำงานสุจริต แต่ถูกหลอกข้ามไปทำงานผิดกฎหมาย ถ้าไม่ทำก็จะถูกทำร้ายร่างกาย
เปิดใจเหยื่อ หนีตายแก๊งคอลเซนเตอร์
ชายคนนี้ชื่อ "เทพ" เปิดใจกับทีมข่าว เล่าให้ฟังว่าตั้งใจจะหางานขับรถทำในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จึงสมัครไปทางเพจฯ เฟซบุ๊ก ที่ประกาศหาคนขับ และผู้ช่วยขนส่งสินค้า จากนั้นก็ได้คุยกับแอดมินเพจฯ ซึ่งก็ซักถามงานเหมือนปกติเลย ก่อนจะหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร 2 บัญชี อ้างว่าลูกค้าใช้บัญชีธนาคารไม่เหมือนกัน จากนั้น ก็เดินทางมาพร้อมกับคนอื่น ๆ รวม 6 คน จากโรงแรมย่านลาดพร้าว มาถึงบ้านพักหลังหนึ่งใน จังหวัดสระแก้ว และข้ามประเทศมาฝั่งกัมพูชา ยอมรับว่าตอนนั้นแปลกใจ แต่ไม่อยากมีปัญหา จึงยอมทำตามไปก่อน
พอข้ามมาได้ก็ถูกคนเป็นนายหน้า ยึดเอาโทรศัพท์, บัตรประชาชน และบัญชีธนาคารไป ก่อนถูกพาไปที่อาคารหลังหนึ่ง แล้วถูกบังคับให้สแกนหน้ารับโอนเงินอยู่ 10 วัน จนบัญชีใช้งานไม่ได้ ก็ถูกส่งกลับมาหานายห
นายเทพ ยังเล่าให้ฟังว่า ในอาคารนั้นก็ไม่ได้มีแค่คนไทย แต่ยังมีชาวแอฟริกา, ชาวเกาหลีใต้, ชาวจีน จำนวนมาก มีคนควบคุมเป็นชาวจีน รองหัวหน้าเป็นคนไทย และชาวกัมพูชา เป็นคนคอยรักษาความปลอดภัย สุดท้ายทำไปได้แค่ 3 วัน ก็ตัดสินใจหลบหนี
กระโดดจากชั้น 2 วิ่งหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากชาวกัมพูชาที่เคยทำงานในไทย พามาส่งตรงจุดข้ามแดนธรรมชาติ ก่อนจะหลบหนีข้ามมาฝั่งไทยได้สำเร็จ แต่ก็อยู่ในสภาพสะบักสะบอม นี่คือหนึ่งในตัวอย่างภาพสะท้อนให้เห็น ว่ายังคงมีแก๊งคอลเซนเตอร์ อยู่ในกัมพูชาจริง ๆ
"กัมพูชา" ขยับ แต่จับแหล่งมั่วสุมยาเสพติด
แม้ "กัมพูชา" จะเคยอ้างเรื่องการจับกุมคนที่เข้ามาทำงานผิดกฎหมาย แต่กลับไม่ค่อยมีข่าวทำนองนี้ออกมา แม้กระทั่งเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่าง "สมเด็จฯ ฮุน เซน" กับ "นายเฉิน จื้อ" ที่เพิ่งถูกสหรัฐ และอังกฤษ ขึ้นบัญชีดำ ก็ไม่ออกมาชี้แจงใด ๆ มีเพียงข่าวสั้น ๆ ที่ระบุขอให้สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ดำเนินคดีกับ "นายเฉิน จื้อ" อย่างเป็นธรรมด้วย
ขณะเดียวกันกลับมีการนำเสนอข่าวใหญ่ เรื่องการทลายแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด ในอาคารแห่งหนึ่งชื่อ "เพชรเลอเมฆ" บนเกาะเพชร เขตจอมการ์มน ที่พบชาวเวียดนาม จีน และชาวกัมพูชา ประมาณ 100 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า หรือจะเป็นความพยายามชี้ผิดไปที่กลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อมกับแสดงบทเหยื่ออีกครั้ง