เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวาน (18 ต.ค.) มีการประชุมสภาฯ เป็นวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ซึ่งฝ่ายค้านได้ตั้งคำถามไปยัง "นายกฯ อนุทิน" เกี่ยวกับการปราบปรามสแกมเมอร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "นายกฯ อนุทิน" ไม่ค่อยพูดถึงรายละเอียดในเรื่องนี้
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดถึงนายกฯ โดยมองว่ารัฐบาลไม่ใส่ใจ และไม่มุ่งแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ปล่อยให้หลอกลวงคนไทย ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ หรือมัวแต่สนใจเรื่องของตนเอง ไม่ได้สนใจเรื่องประเทศชาติ
ด้าน นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงแทนนายกฯ ยืนยันว่า รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่มีลดละ เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่ทำดีกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วแน่นอน
หลังจากนั้น พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ยกระดับการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ ขอให้ดำเนินมาตรการ "3 ตัด" คือ ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดการขนส่งน้ำมัน ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
พร้อมขอเรียกร้องให้รัฐบาลเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ทำงานตามกระแส หวังคะแนนนิยมและผลทางการเมือง
ด้าน นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ตั้งคำถามถึง "นายกฯ อนุทิน" ว่า เกรงใจใคร และกังวลอะไรอยู่ จึงไม่ปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ และเลี่ยงตอบคำถาม จึงขอให้เร่งเสนอมาตรการเชิงรุกแก้ปัญหาบ้าง
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย โดยตั้งเป้าหมายปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์ใน 4 เดือน
ส่วนกรณีฝ่ายค้านที่เปิดเผยตัวละครอย่าง นายเบน สมิธ ที่มีความสัมพันธ์กับคนในรัฐบาล นายไชยชนก กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ทำได้ คือ ต้องรับไปตรวจสอบ และเมื่อนายกฯ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลแล้ว ทุกคนต้องรวบรวมข้อเท็จจริง ก่อนส่งให้หน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง
สำหรับกรณีของ นายเบน สมิธ ซึ่งมีข้อมูลพาดพิงว่าเคยมีหมายจับในคดีพิเศษ ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยัน นายเบน สมิธ หรือ นายเบนจามิน เมาเออร์ เบอร์เกอร์ ไม่มีข้อมูลในฐานข้อมูลพิมพ์มือผู้ต้องหา หรือหมายจับของกรมฯ แต่อย่างใด
