สนามข่าว 7 สี - กรรมของผู้ป่วย เมื่อโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ งัดไม้แข็ง งดรับผู้ป่วยนอก-สิทธิบัตรทองชั่วคราว หลัง สปสช. ค้างชำระหนี้หลายสิบล้าน จนผู้ป่วยเดือดร้อน บางคนตัดสินใจหยุดรักษา ขอแค่รับยาไว้กินประคองอาการ สาเหตุสู้ไม่ไหวกับรายจ่ายที่มีเพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยบัตรทอง จำใจจ่ายค่ารักษา แลกใช้บริการ รพ.เดิม
วานนี้ (16 ต.ค.) ก็เป็นวันแรกที่ผู้ป่วยนอก และสิทธิบัตรทอง โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ต้องเลือกระหว่างการควักเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง หรือเปลี่ยนสถานพยาบาล ไปตามที่ สปสช.จัดเตรียมไว้ให้เพื่อใช้สิทธิบัตรทอง ไม่เสียค่ารักษา
โดยผลพบว่าตลอดทั้งวัน มีผู้ป่วยทยอยมารักษามากกว่า 500 คน ในจำนวนนี้มีทั้งคนที่ทราบข่าวการงดรับผู้ป่วยบัตรทอง และไม่ทราบ จนบางคนเตรียมเงินติดตัวมาไม่พอ มีแค่ 200 บาท แต่ต้องเอกซเรย์กว่า 2,000 บาท จึงเลือกเปลี่ยนไปรักษากับสถานบริการแห่งใหม่ตามที่จัดไว้
แต่ส่วนใหญ่ยังยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ที่มีทั้งค่าหมอ ค่าตรวจ และค่ายา ในจำนวนนี้ก็มีบางคนยอมรับตรง ๆ ว่า อาจต้องเลือกวิธีหยุดรักษาโรคไว้ แต่จะขอแค่มารับยากับโรงพยาบาลแห่งนี้ ไปกินรักษาอาการป่วย เพราะสถานพยาบาลแห่งใหม่อยู่ไกลบ้านมาก เดินทางขึ้นรถหลายต่อ ต้องใช้เงินจำนวนมาก
หรืออย่างผู้ป่วยหญิงคนนี้ แม้พอมีกำลังจ่ายค่ารักษาได้ แต่ก็ยังอยากให้ สปสช. เร่งแก้ปัญหาหนี้ติดค้าง เพื่อคืนระบบบริการให้ผู้ป่วยตามเดิม
รอ สปสช.จ่ายหนี้ งดรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองชั่วคราว
ด้าน "หมอเหรียญทอง" พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาล เผยว่าจากข้อมูลผู้ป่วยมีไม่เกิน 10 คน ที่ขอรับใบส่งตัวไปสถานพยาบาลอื่น โดยกว่า 90 % สมัครใจจ่ายค่ารักษาเอง ซึ่งก็คิดค่าบริการเทียบเท่ารัฐ และลดเพิ่มอีก 5% สำหรับผู้ถือสิทธิบัตรทอง
หมอเหรียญทอง ยังยืนยันจะงดให้บริการผู้ป่วยนอก สิทธิบัตรทองชั่วคราว ไปจนกว่า สปสช.จะจ่ายหนี้ เพราะแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อไม่ไหว และยืนยันไม่ได้ต้องการยกเลิกระบบบัตรทอง แต่เห็นว่าการเรียกเก็บค่ารักษาจากผู้ป่วยโดยสมัครใจ เป็นสิ่งทำได้ ไม่ขัดกฎหมาย
สำหรับผู้ต้องการย้ายสิทธิ์การรักษา สปสช. ก็เปิดให้ตรวจสอบหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่เขตหลักสี่ และดอนเมือง ซึ่งมีคลินิกรวม 7 แห่ง ที่ยังรองรับการย้ายสิทธิ์ได้ในขณะนี้ นอกจากสถานพยาบาลที่จัดเตรียมไว้