รวบคนร้ายยิงถล่มบ้าน หลังก่อเหตุซ้ำ 2 ครั้งในรอบ 15 วัน

รวบคนร้ายยิงถล่มบ้าน หลังก่อเหตุซ้ำ 2 ครั้งในรอบ 15 วัน

View icon 625
วันที่ 17 ต.ค. 2568 | 14.14 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจตามรวบแก๊งคนร้าย ควงปืนกลมือบุกยิงถล่มบ้าน ที่พระนครศรีอยุธยา เพราะว่าก่อเหตุซ้ำ 2 ครั้ง ในรอบ 15 วัน เบื้องต้นตามจับกุมได้ 2 คน เหลืออีก 2 คนที่หลบหนี

วันที่ 17.ต.ค.68 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พลตำรวจโทวัฒนา ยี่จีน มอบหมายให้ พลตำรวจตรีสุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ติดตามคดีคนร้ายยิงถล่มบ้าน และวางเพลิงเผารถบัส ที่ตำบลปากท่า อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 ครั้งติดกันภายในระยะเวลาเพียง 15 วัน

ครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม คนร้าย 4 คน ใช้รถเก๋ง สีดำ ก่อเหตุยิงถล่มบ้านของนายสงคราม อายุ 54 ปี ด้วยอาวุธปืนกลมือ ขนาด .45 กว่า 20 นัด พร้อมใช้น้ำมันราดจุดไฟเผารถบัส ที่จอดอยู่ภายในบ้าน แต่เพื่อนบ้านช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา วันที่ 14 สิงหาคม คนร้ายกลุ่มเดิมกลับมาก่อเหตุซ้ำ ยิงใส่บ้านหลังเดิมกว่า 25 นัด และจุดไฟเผารถบัสอีกครั้ง ก่อนจะหลบหนีไป หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐาน ปลอกกระสุน และแม็กกาซีนปืนกลมือ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบตัวคนร้าย 4 คน จับกุมได้แล้ว 2 คน คือ นายนพคุณ อายุ 36 ปี ทำหน้าที่ขับรถ และนายมนตรี หรือเอ อายุ 42 ปี ซึ่งถูกจับตามหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนอีก 2 คนยังอยู่ระหว่างหลบหนี ของกลางที่ตรวจยึดได้ ทั้ง รถยนต์ สีดำ หมายเลขทะเบียนปลอม ปลอกกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 25 ปลอก แม็กกาซีนปืน 1 ชิ้น แกลอนน้ำมัน และขวดบรรจุน้ำมันดีเซล รวมถึงอาวุธปืนกลมือขนาด .45 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ 

ด้าน พันตำรวจเอก ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์, รองผู้บังคับการตำรวจภูธร เผยกลุ่มแก๊งดังกล่าวเป็น มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเป็นบุคคลตามหมายจับหลายท้องที่ เจ้าหน้าที่ได้หาพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง และรถยนต์ ถึงแม้คนร้ายจะเปลี่ยนป้ายทะเบียนถึง 4 ครั้ง เพื่อตบตาตำรวจในการหลบหนีการจับกุม แต่เจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยจากตำหนิรูปพรรณที่ตัวรถ แน่ชัดว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจนไปสู่การจับกุมตัว 2 คนร้ายได้ ส่วนอีก 2 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างการแกะรอยติดตามจับกุมขบวนการแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง