ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมยืนยันร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
ช่วงเช้าวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ นายจาง เจี้ยนเว่ย์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ และยินดีกับนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการแต่งตั้ง
ทั้ง 2 ฝ่ายหารือด้านความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งไทยยืนยันว่า พร้อมร่วมมือกับจีน เพื่อดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง ขณะที่เอกอัครราชทูตจีน ยินดีจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานไทย เพื่อป้องกันปราบปราม
ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เอกอัคราชทูตจีน มีท่าทีเป็นกลาง สนับสนุนให้ทั้ง 2 ประเทศเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างสันติ
ขณะที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้บัญชาการเหล่าทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ มาประชุมเป็นครั้งแรก เพื่อหารือแนวทางการยกเลิก MOU 43, MOU 44 ที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
ภายหลังการประชุม นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้รับฟังข้อดีและข้อเสีย หากจะยกเลิก MOU 43-44 หรือบังคับใช้ต่อไป คาดว่า 1-2 เดือนจะได้ข้อสรุป
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี จะไปประชุมสุดยอดผู้นําอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย นายสิริพงศ์ บอกว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะมาร่วมลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา โดยนายกฯ ยืนยันมาตลอดว่า ฝ่ายกัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไข 4 ข้อก่อน จึงจะมีการพูดคุยกัน
ด้าน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่า นายกรัฐมนตรี จะนําคณะเข้าพบ กกต. ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ เพื่อหารือแนวทางการจัดทําประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการยกเลิก MOU 43 และ 44 ในวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส.
ขณะที่ พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี เพื่อตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัยขนาดรองรับ 40 คน จำนวน 10 แห่ง และหลุมบุคคลคู่จำนวน 328 แห่ง ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์ รวมถึงติดตามแผนการสร้างกำแพงรั้วชายแดน 6 จุดระยะทางรวมกว่า 20 กิโลเมตร