ทหารกลับจากชายแดน มาเยี่ยมแม่ที่กทม. กลับถูกวัยรุ่นนับ 10 คน รุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทหารกลับจากชายแดน มาเยี่ยมแม่ที่กทม. กลับถูกวัยรุ่นนับ 10 คน รุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

View icon 795
วันที่ 18 ต.ค. 2568 | 16.56 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (18 ต.ค. 68) ที่ศูนย์ประสานงาน เพจสายไหมต้องรอด ได้มีทหารบก หรือ จ.ส.อ.มินทร์อายุ 46 ปี ที่พึ่งกลับจากชายภาคใต้ เพื่อมาเยี่ยมแม่ที่ถูกรถชน เข้าร้องเรียนนายเอกภพ เรืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด หลังจากถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมใช้ยาเสพติด ประมาณ 10 คน เข้ามาหาเรื่องก่อนจะรุมทำร้ายจนกว่า จ.ส.อ.มินทร์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนหัก เหตุเกิดที่บริเวณชุมชนแห่งหนึ่ง จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งความที่สน. พญาไท แต่คดีไม่คืบหน้า

จ.ส.อ.มินทร์ อายุ 46 ปี  ผู้เสียหายเป็นทหารบก ยศ. จ.ส.อ. อยู่ค่ายลพบุรี ประจำชายแดนทางภาคใต้ ได้เล่าเหตุการณ์ว่าในวันที่ (30 ก.ย. 68) ที่ผ่านมา ตนเองกำลังจะออกไปรับแฟนสาว พอออกมาที่ปากซอยหมู่บ้านก็เจอกลุ่มวัยรุ่น อายุ ประมาณ 20-35 ปี ยืนขวางทางอยู่ประมาณ 10 คน

ก่อนจะมีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นพยายามเข้ามาเหมือนจะทำร้ายโดยการต่อย ตัวเองจึงลงจากรถเพื่อมาตำหนิ เพราะไม่รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นแต่ทำไมถึงมาทำพฤติกรรมแบบนี้ พอตำหนิไปแบบนั้นทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ ได้เข้ามารุมทำร้ายทั้งเตะทั้งต่อยรวมถึงใช้อาวุธที่มีลักษณะคล้ายไม้เข้ามาตีทำร้าย ตัวเองพยายามที่จะวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 20 เมตร แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอมปล่อยวิ่งไล่ตามทำร้ายจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนข้างขวาหัก ขาเป็นแผลต้องล้างหนองทุกวัน หัวได้รับแรงกระทบกระเทือนทำให้ตอนนี้พูดช้า ใบหน้าบวมช้ำ

ทางด้าน จ.ส.อ.มินทร์ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้เพราะตนเองรับราชการทหารตั้งแต่อายุ 20 ปี ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หลังจากตัวเองออกจากโรงพยาบาลได้เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท แต่สิ่งที่ตัวเองติดใจ คือทำไมจะต้องรอผลนิติเวชที่ส่งตัวเองไปตรวจร่างกายทั้งที่บาดแผลตามร่างกายของตนเองนั้นก็ชัดเจนอยู่แล้ว และพอไม่มีการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทางกลุ่มวัยรุ่ยก็ได้มีการโพสต์ Facebook ข่มขู่คนในครอบครัว และอีกหนึ่งอย่างที่ติดใจ คือทำไมหลักฐาน และคำให้การที่ตนเองมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตร. ถึงตกไปอยู่ในมือกลุ่มวัยรุ่น

ต่อมานางพรทิพย์ อายุ 64 ปี แม่ของ จ.ส.อ.มินทร์ เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นพึ่งย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านได้ประมาณ 2-3 ปี กว้านซื้อที่บริเวณหน้าชุมชนเอาไว้รวมตัวกัน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ตนเองเคยได้ยินมาว่าถ้าหากกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ไม่พอใจใคร หรือมีเรื่องกับใครก็จะเข้าไปทำร้ายร่างกายถึงในบ้านแต่ที่ผ่านมาไม่มีใครเอาเรื่อง เพราะมักจะจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เพื่อไม่ให้เป็นคดีความ ทำให้คนในชุมชนกลัว และไม่กล้ายุ่งกับวัยรุ่นกลุ่มนี้ รวมถึงวัยรุ่นกลุ่มนี้ยังมีพฤติกรรมใช้สารเสพติด ปล่อยเงินกู้ ทำตัวกร่างอยู่ภายในชุมชน

ส่วนหัวโจกของกลุ่มนี้ทราบชื่อมาว่า คือ “บอย” เป็นหัวหน้าวินภายในชุมชนพึ่งออกมาจากคุก และมักจะเข้าออกคุกเป็น ประจำเชื่อว่ากลุ่มนี้น่าจะรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตร. เพราะมีการแอบอ้างว่า “ไปแจ้งความเลยกูไม่กลัว กูรู้จักกับ น.1” อีกอย่างหนึ่ง คือกลุ่มนี้มีเงินใช้ไม่ขาดสายทั้งที่ก็ไม่เห็นทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน

ส่วนในวันที่เกิดเหตุมีคนมาบอกว่าลูกชายตนถูกทำร้ายร่างกาย ตนจึงรีบออกไปดูลูกชายพอเห็นสภาพของลูกชายแล้วตนก็ต้องตกใจเป็นอย่างมากร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ ตนมั่นใจว่าคนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายจะต้องเป็นวัยรุ่นที่อยู่บริเวณปากซอยชุมชนอย่างแน่นอน

ตนจึงเดินไปถามว่าทำลูกชายตนทำไม แต่วัยรุ่นกลุ่มนั้นกับสวนมาว่า ใครทำลูกมึง แต่ด้วยความที่มั่นใจจึงบอกไปว่า  ใครที่ทำลูกกูจะต้องติดคุก  แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่กลัว พร้อมรวมตัวเข้าหาตนเองเหมือนจะทำร้ายร่างกาย และท้าให้ไปแจ้งความ

ต่อมานางพรทิพย์ ร้องไห้บอกว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ไม่กล้าดูคลิปวิดีโอที่ลูกลูกชายทำร้ายพอหันไปเห็นหน้าลูกชายที่มีบาดแผลก็ร้องไห้ออกมาทุกครั้ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตร. เร่งดำเนินคดีเพราะแจ้งความไว้นานแล้ว แต่คดีเหมือนยังไม่คืบหน้า

ทางด้านนายเอกภพ ระบุว่า ทำไมต้องรอผลนิติเวชทั้งที่บาดแผลตามร่างกายของผู้เสียหายก็สามารถดำเนินคดีได้เลย พอไม่ดำเนินคดีก็ทำให้ผู้ก่อเหตุโพสต์ข่มขู่จนคนในครอบครัว จึงมองว่าทาง สน.พญาไท จะต้องเร่งดำเนินการการที่ปล่อยให้ล่าช้าก็เหมือนก็ไม่ยุติธรรมกับผู้เสียหาย เพราะผู้เสียหายเป็นทหาร ทุกวันนี้ทหารก็ทำหน้าที่มาอย่างหนักแต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

แต่ในเบื้องต้นได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง  รอง ผบช.น. และ  พ.ต.อ.ธนพล  กลิ่นเกษร. ผกก.สน.พญาไท เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าทางคดี

โดยทางพ.ต.อ.ธนพล ระบุว่าได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุ 4 คนรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลืออีก 3-4 คน อยู่ระหว่างการให้ชุดสืบเร่งล่าตามตัว

เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนที่มีการแอบอ้าง น.1 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ เชื่อว่าเป็นเพียงแค่การแอบอ้างของกลุ่มผู้ก่อเหตุเท่านั้น