“อนุทิน” ลั่น ไม่ต้องถามแล้ว สถานฑูตเกาหลีใต้ ยันไม่เป็นความจริง ปมเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทยเอี่ยวสแกมเมอร์ ขอปชช.มั่นใจ ไม่มีละเว้น - ยันไม่ได้ดำเนินการช้า แค่ไม่ได้บอก กลัวคนร้ายไหวตัวทัน
(19 ต.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงกรณีที่สถานทูตเกาหลีใต้ออกมา ยืนยัน ว่าไม่ได้มีการให้ข่าว 7 นักการเมืองไทย เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์
โดยนายอนุทิน ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าว ว่าถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว ก่อนจะรีบส่ายหัวว่า ไม่ใช่ความจริงต้องไม่ถาม และย้ำต่อว่าถามไม่ได้ เรื่องการปราบปรามจริงจังอยู่แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็จับกุมวงเงินหลายหมื่นล้าน ซึ่งเรื่องนี้ จะะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลง
ส่วนเรื่อง 7 นักการเมืองทางสถานทูตเกาหลีใต้ก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นที่ สปป.ลาว ตนก็ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เกือบครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ได้การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลนี้ไม่มีละเว้นไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือใครก็ตาม เพราะสแกมเมอร์ ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญของประเทศและของโลก มีผู้เสียหายจากเรื่องนี้จำนวนมาก
ขณะที่ความมั่นใจว่าไม่มีคนในรัฐบาลนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง นายอนุทิน กล่าวว่า ต่อให้มีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดี อย่างถึงที่สุด
ส่วนหากนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนนำข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์มาให้ก็ยินดีรับฟังใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดีแต่ต้องมีหลักฐาน เพื่อนำไปขยายผล พูดกันลอย ๆ ไม่ได้ต้องมีหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำไปดำเนินคดีต่อได้ ส่วนตัวก็อยากเชิญ นายรังสิมันต์ มาหารือเป็นการส่วนตัวเพราะเป็นคนที่ให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องที่แม่สอดแล้ว ส่วนที่บอกว่าช้าตั้งแต่เรื่องการตัดไฟ ยืนยันว่าตั้งแต่ทันทีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีมติให้ตัดไฟก็ดำเนินการทันที อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการระเบียบและกฎหมายที่มี และยืนยันว่าไม่ได้ช้า ตนเข้าใจถึงความคาดหวังและความเดือดร้อนของประชาชนดี วันนี้ภัยคุกคามต่างๆเกิดขึ้นแล้ว การจับสแกมเมอร์ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา และย้ำว่ารายละเอียดนั้น สำนักงานตำรวตแห่งชาติ (สตช.) ก็จะกำลังออกมาแถลง
นอกจากนี้ ตนได้มีการตั้งคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ขึ้นมา ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมชุดใหญ่เพื่อแบ่งงานให้ดำเนินการ เรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงของชาติ หากผู้สื่อข่าวถามถึงแผนงาน จะดำเนินการอย่างไรถึงไหนแล้ว ถ้าบอกหมดทุกอย่าง เขาก็แก้ทัน แต่อะไรที่เราเปิดเผยได้เราก็ทำ แต่ตอนนี้สิ่งที่พูดได้อย่างมั่นใจคือ ไม่มีนโยบายไหนที่จะยอมลดลา วาศอก กับสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตนพูดได้แค่นี้ และปล่อยให้คนทำไปทำ หากตนไปพูดก่อนก็อาจจะถูกตำหนิ จะทำให้คนร้ายไหวตัวสามารถแก้เกมได้ อย่างเช่นเรื่องยาเสพติด ตอนนี้ก็อ้อมไปทางเมียนมา แสดงว่าเส้นทางเดิมใช้ไม่ได้จึงต้องมีการเปลี่ยนวิธีการ
