คนขับรถกระบะรับขาดสติ จอดขวางรถฉุกเฉิน

View icon 232
วันที่ 20 ต.ค. 2568 | 06.09 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - เป็นเรื่องดรามาอย่างหนักในโซเชียล กรณีคนขับรถกระบะ พาแม่ไปส่งโรงพยาบาล ไปจอดปิดท้ายรถฉุกเฉิน ทำให้ผู้ป่วยวิกฤติ เสียชีวิต

เจ้าตัวเปิดใจ ทำไปเพราะขาดสติ โมโหไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลแม่ ตอนนี้ได้รับผลจากการกระทำแล้ว 

คนขับรถกระบะ 4 ประตู จอดปิดท้ายรถฉุกเฉิน หน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เมื่อช่วง 23.15 ิน. วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา นำแม่ อายุ 69 ปี มีอาการเวียนศีรษะ แต่ยังรู้สึกตัวดีเข้าไปรักษา ในห้องฉุกเฉิน

ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรีบนำ นายสมควร อายุ 69 ปี ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน มีภาวะหายใจล้มเหลว อาการวิกฤติ ใส่ท่อช่วยหายใจ ส่งรักษาที่โรงพยาบาลกระบี่

เมื่อคนขับ เข็นแม่ไปยังเตียงผู้ป่วย เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่เข้ามาดูแลแม่ จึงโวยวายเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายก็ไม่ฟัง

ขณะเจ้าหน้าที่จะนำนายสมควร ไปขึ้นรถฉุกเฉิน ก็ขึ้นไม่ได้ เพราะรถกระบะจอดปิดท้ายเรียกคนขับกระบะ ก็ไม่มาขยับในทันที จนลูกสาวของนายสมควร นั่งยกมือไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา เมื่อนำผู้ป่วยวิกฤติไปส่งรักษาได้ แต่สุดท้ายก็เสียชีวิต

คนขับรถกระบะ เปิดใจทางโทรศัพท์ แม่ป่วยโรคกรดไหลย้อนมีอาการหายใจไม่ออก จึงพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่เมื่อไปถึงไม่มีเจ้าหน้าที่มารับต้องนำแม่ขึ้นเตียงเอง เมื่อเจ้าหน้าที่ มาเรียกให้ขยับรถไม่บอกว่ามีผู้ป่วยวิกฤติรออยู่ จึงขอพาแม่ขึ้นเตียงก่อน

จากนั้นต่อว่า เจ้าหน้าที่ ที่ไม่แบ่งคนมาดูแลแม่ของตนเอง เมื่อตนเองออกไปขยับรถ ก็ไม่เห็นผู้ป่วยวิกฤติแล้ว จึงเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถไปแล้ว แต่ในระหว่างนั้นก็มีญาติของผู้ป่วยวิกฤติ เข้ามาต่อว่าภรรยา จึงอธิบายว่าแม่ก็อาการหนักเหมือนกัน

ตนเองไม่รู้ว่าผู้ป่วยไปเสียชีวิตที่ไหน เวลาใด เพราะคำแถลงการของโรงพยาบาล ไม่ได้ระบุว่ารายละเอียด และเผยแพร่ภาพเพียงบางส่วนที่ตนเองขัดขวางเจ้าหน้าที่

โดยเฉพาะภาพที่ลูกสาวผู้ป่วย นั่งยกมือไหว้ร้องขอให้ตนเองขยับรถ ทำให้ถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก ตนเองไม่โกรธ เพราะเข้าใจว่าทุกคนรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านเดียว

หลังนี้จะนำเงินสะสมที่ได้จากบริษัท ไปชดใช้ให้ญาติผู้เสียชีวิต ตอนนี้กลายเป็นคนตกงาน เพราะบริษัทเลิกจ้างแล้ว เช่นเดียวกับภรรยา รอออกจากงานสิ้นปีนี้ เจ้าตัวบอกอีกว่า "หากย้อนเวลากลับไปได้ จะไม่ทำแบบนี้ ยอมรับว่า ขาดสติ เพราะเหลือแม่เพียงคนเดียว"

บริษัทต้นสังกัด ออกแถลงการเลิกจ้าง พนักงานคนดังกล่าว เพราะพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับค่านิยม และหลักการขององค์กร พร้อมแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ที่ได้รับผลกระทบ

นางสาวภัทราพร สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปลายพระยา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้มาพูดคุย วันนี้ให้เธอ ไปร่วมแจ้งความ กับคนขับรถกระบะ

ตั้งแต่เกิดเรื่องฝ่ายคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่เธอก็ได้ฟังจากข่าวที่ให้สัมภาษณ์ทางสื่อแล้ว

สำหรับข้อหาที่ทางโรงพยาบาล และญาติผู้เสียชีวิต จะแจ้งความ มีหลายข้อหา อาทิ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ขณะปฎิบัติงาน ข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง