สาวขี่รถ จยย.กลับบ้านชนควาย ข้อมือหัก รถพัง วอนเจ้าของควายรับผิดชอบ

สาวขี่รถ จยย.กลับบ้านชนควาย ข้อมือหัก รถพัง วอนเจ้าของควายรับผิดชอบ

วันนี้ ( 20 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.สุดารัตน์ อายุ 32 ปี อยู่ ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่าหลังเลิกงานได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ได้ชนกับควาย ทำให้รถล้มพังยับเยิน ส่วนผู้ขับบาดข้อมือหัก เสียค่ารถซ่อมจักรยานยนต์ 24,000 บาท แต่เจ้าของควายซึ่งเป็นนักธุรกิจ นำควายมาจ้างชาวบ้านเลี้ยง ติดต่อขอจ่ายค่าบาดเจ็บและค่าซ่อมรถ 10,000 บาท เท่านั้น โดยขายควายได้ก่อนถึงจะจ่าย ตนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผ่านมา  1 เดือนกว่าแล้ว ยังไม่ได้รับการเยียวยา จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ สภาพรถจักรยานยนต์ และการบาดเจ็บ มาร้องสื่อขอความเป็นธรรม เหตุเกิดเวลา 19.20 น.เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ที่หน้าร้านอาหารมัจฉา ถนนบ้านไก่เถื่อน–นากว้าง ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี

น.ส.สุดารัตน์  เล่าว่า ตนทำงานเป็นพนักงานขายอยู่ในห้างแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี วันเกิดเหตุหลังเลิกงานเวลา 19.00 น. ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีขาว ผ่านหน้าร้านอาหารมัจฉา ควาย 3-4 ตัว เดินข้ามถนนไปแล้ว มี 1 ตัวย้อนกลับมา ถนนมืดไม่มีไฟเพราะต้นไม้บัง ชนเข้าเต็ม ๆ สลบหมดสติ กระดูกข้อมือหัก รถพังเสียหาย กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้นแฟนได้ตามหาเจ้าของควาย จนทราบว่าเป็นนักธุรกิจหลายอย่าง โทรไปหาก็ไม่รับสาย จึงติดต่อชาวบ้านที่รับจ้างเลี้ยงควายฝูงนี้ ซึ่งประสานให้ ครั้งแรกบอกว่ารับผิดชอบได้แค่ 5,000 บาท จะมาให้รับผิดชอบทั้งคนทั้งรถคงไม่ไหว แต่แฟนก็บอกว่าตนเจ็บหนัก เฮียรับปากว่าควายจะขายอยู่แล้ว ถ้าขายได้ก็จะให้เงินเพิ่ม แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้กี่บาท

“ข้อมือหักใส่เหล็กดาม นอนโรงพยาบาล 4 วัน แต่เจ้าของควายไม่เคยมาเยี่ยม และติดต่อก็ไม่ได้ จึงโทรไปหาลูกสะใภ้ของเฮีย บอกว่าจะแจ้งให้เฮียทราบ หลังจากนั้นก็มีโอกาศได้คุยกับลูกสะใภ้เฮีย ประมาณว่าจะให้หาเงินมารับผิดชอบคงไม่ได้ ให้มาเลือกเอารถที่ร้านได้เลย จะให้เพราะตนไม่มีรถใช้ ตนเพิ่งซื้อ เพิ่งผ่อนได้ 2 งวด ต่อมาลูกน้องเฮียก็ติดต่อมา บอกว่าเป็นห่วง เดี๋ยวจะมาพบที่บ้าน แต่รอแล้วก็ไม่มา ลูกน้องได้ติดต่อมาบอกอีกว่าเฮียให้เพิ่มเป็น 1 หมื่นบาท ตนก็เลยบอกว่ารถพังมาก และหนูก็เจ็บ ไม่ได้ทำงานเป็นเดือน แต่ก็ยังยืนยันว่าจ่ายค่าเสียหาย และบาดเจ็บได้แค่ 1 หมื่นเท่านั้น หลังจากนั้นก็เงียบหายไปเลย”

น.ส.สุดารัตน์ เล่าต่อว่า ตอนที่ยังไม่ได้เอารถไปซ่อม ตนได้เรียกเงินค่าซ่อมรถและค่าบาดเจ็บรวม 2 หมื่นบาท ถ้าหากมันมีส่วนต่างตนจะรับผิดชอบเอง มันจะได้จบ จะได้แยกย้ายกันไป จะได้ไม่ต้องไปโรงพัก ให้มาคุยกับตนก่อนก็ได้ มาดูว่าตนเจ็บและรถพังเสียหายอย่างไร แต่ก็ไม่มีใครมา ตั้งแต่เกิดเหตุ เจ้าของควายไม่เคยติดต่อมาหา มีแต่ตนติดต่อไปหา หลังจากเอารถไปซ่อม ช่างประเมินค่าซ่อม 24,000 บาท จึงอยากฝากถึงเจ้าของควายว่า ตนอยากให้มารับผิดชอบค่าซ่อมรถ ไม่รับผิดชอบที่ตนบาดเจ็บก็ไม่เป็นไร เมื่อเหตุมันเกิดจากทรัพย์สินของเฮียแล้ว เพราะเวลานั้นมันไม่ควรมีควายมาเดินด้วยซ้ำ ให้มาดูรถ และมาคุยกับตนบ้าง ขอแค่นี้