จำใจปิดเตาเลิกต้มข้าวโพด หลังถูกค่าปรับ 9 หมื่นบาท

View icon 148.2K
วันที่ 21 ต.ค. 2568 | 07.04 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - อาชีพต้มข้าวโพด-ต้มถั่วขาย ใครจะคิดว่าถูกร้องเรียนเรื่องควันไฟจากเตาถ่านที่ลอยฟุ้งไปในอากาศ จะทำให้คู่ผัว-เมีย ที่ยึดอาชีพนี้หาเช้ากินค่ำ ถูกเรียกเงินค่าปรับสูงถึง 90,000 บาท จนเดือดร้อน ไม่มีจ่ายถึงขั้นยอมพับหม้อต้ม เลิกอาชีพนี้แล้ว

เตาต้มข้าวโพด-ต้มถั่ว ที่หยุดประกอบกิจการ ไม่มีควันไฟลอยตามเดิม เพราะเปลี่ยนมาใช้ก๊าซหุงต้มแทน ภายในเพิงพักสังกะสีแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่ นายบานเย็น และ นางนวลจันทร์ ใช้เป็นทั้งบ้านพักอาศัย และสถานที่ประกอบอาชีพ ที่ตอนนี้จำใจหยุดลง เพราะผลจากอดีตเคยใช้ไม้ และถ่าน มาเป็นเชื้อเพลิงตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว จนถูกเพื่อนบ้านร้องเรียนไปที่เทศบาลนครปากเกร็ดหลายครั้ง ให้แจ้งเตือนคู่ผัว-เมีย ปรับปรุงกิจการ ไม่ให้เกิดควันไฟก่อมลพิษทั้งฝุ่นและ PM2.5 แต่ก็ไม่เป็นผล จนต้องบังคับใช้กฎหมาย เรียกจ่ายเงินค่าปรับสูงถึง 90,000 บาท ไปเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

จนคู่ผัว-เมีย ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ยอมรับตรง ๆ กับทีมข่าว 7HD ที่ลงพื้นที่ไปว่า ไม่มีเงินไปจ่ายค่าปรับ ทำงานหาเงินมีรายได้แต่ก็ชักหน้าไม่ถึงหลังแล้ว เพราะถ้าให้เปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นก๊าซหุงต้มก็จะมีต้นทุนสูง แต่ถ้าขายข้าวโพดและถั่วต้มเฉลี่ย 50-100 กิโลกรัม ได้เงิน 2,000-3,000 บาท ก็จริง แต่พอหักค่าใช้จ่ายก็เหลือเงินเพียงวันละ 500 บาท เท่านั้น

ทีมข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มกับเทศบาลนครปากเกร็ด ยืนยันดำเนินคดีกับคู่ผัว-เมีย เนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายการสาธารณสุข เพราะประกอบกิจการสถานที่จำหน่ายอาหาร หรือสะสมอาหาร ไม่ได้รับอนุญาตจากท้องถิ่น สั่งให้แก้ไขก็ยังฝ่าฝืน จนชาวบ้านร้องเรียนซ้ำ ๆ ก่อนมีคำสั่งให้หยุดกิจการ แม้จะเห็นใจก็ตาม เพราะตัวเลขค่าปรับค่อนข้างสูง

คู่ผัว-เมีย ก็สามารถไปยื่นอุทธรณ์ที่ศาลแขวงนนทบุรีเพื่อขอไกล่เกลี่ย และยังมีข้อมูลจากเทศบาลฯ ด้วยว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับเรื่องร้องเรียนไม่ต่ำกว่า 500 เรื่อง แต่แจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านเพียง 15 คดี โดยที่ผ่านมาก็ให้เวลาแก้ไขหลายเดือน ก่อนจะลงโทษตามกฎหมาย โดยโทษปรับเงินหนักสุดที่เคยมี บางรายก็พุ่งไปถึง 700,000 บาท