“บิ๊กกุ้ง” ล้่นทหารไทยอยู่ประจำจุดที่ยึดได้ ใครสั่งให้ถอยรับผิดชอบเอง ชี้สถานการณ์ยังตึง คุย RBC ไปก็ไร้ผล วอนประชาชนเข้าใจ “แม่ทัพเติ่ง” พูดไม่ค่อยเก่ง เพิ่งรับตำแหน่งยังไม่ถึงเดือน
วันนี้ (21 ต.ค.68) พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีพลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนที่มีความคาดหวังในการแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาว่า ตนได้บอก พลโท วีระยุทธ ตั้งแต่แรกแล้วว่า จะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะบางครั้งประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวของแม่ทัพคนก่อนมาระยะหนึ่ง พอมีแม่ทัพคนใหม่ที่พูดไม่เก่ง ซึ่งตัวท่านเองก็รู้ตัวดี แต่ยืนยันได้ว่า พลโท วีระยุทธ ทำงานรู้ทั้งหมด อยู่กับตนมาตลอด ในช่วงที่สู้รบก็ทำงานอยู่แนวหน้าด้วยกัน แต่พวกเราไม่ค่อยจะเห็น พลโท วีระยุทธ มีแต่ตนออกสื่อเท่านั้น
“ต้องให้เวลา พลโทวีระยุทธ ทำงาน เพราะเพิ่งมาได้ไม่ถึง 1 เดือน บางครั้งคำพูดของ พลโท วีระยุทธ อาจจะอธิบายไปภาพกว้างทำให้ประชาชนไปตีความ และคิดไปอีกแบบ ปัจจุบัน พลโท วีระยุทธ พยายามลงพื้นที่ตลอด ผมได้ให้กำลังใจไป แต่ปัญหาบางอย่างก็ต้องรอฟังนโยบายจากหน่วยเหนือด้วย ไม่ใช่ว่าทำเองคนเดียว เพราะเป็นผลกระทบด้านความมั่นคง สังคม การเมือง เศรษฐกิจ มันไม่ใช่แค่การทหาร” พลโท บุญสิน กล่าว
พลโท บุญสิน ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ RBC ที่ผ่านมา ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่แม่ทัพยังไม่ไปประชุม เพราะสถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ คุยกันไปก็ไม่มีผลอะไร แต่การประชุม JBC เป็นเรื่องของรัฐบาล และกระทรวงต่างประเทศ มีคณะอนุกรรมการปักปันเขตแดน กรมแผนที่ทหาร ซึ่งกระทรวงต่างประเทศคงจะมีแนวทางที่จะไปคุยให้ชัดเจน จึงผลักดันให้มีการประชุม แต่ในส่วน RBC ตนมองว่า หากสถานการณ์ยังตึงอยู่แบบนี้ คุยไปก็ไม่มีผลอะไร ต้องรอนโยบายผู้ใหญ่มือหนึ่งของกัมพูชาก่อน
สำหรับ 4 ข้อเสนอของที่ประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC ควรจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ พลโท บุญสิน กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นอะไรคงจะเป็น 4 ข้อ แต่อยากให้ผู้นำกัมพูชามีความจริงใจมากกว่า
เมื่อถามว่า อยากให้กัมพูชาถอนฟ้องเรื่องเคลม 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ออกจากศาลโลกหรือไม่ พลโท บุญสิน กล่าวว่า เป็นแนวทางที่จะคุยอยู่แล้ว เพราะเรื่อง 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ที่กัมพูชาอ้างเรื่องพวกนี้ถึงทำให้รบกัน เราอยู่มานานแล้ว วันดีคืนดีก็มาบอกว่า เป็นของกัมพูชา ยกกำลังมาก่อเหตุ เป็นเรื่องราวสตอรีที่เด็กอมมือก็ยังรู้ เพราะต้องการให้เรารบ แล้วก็บอกว่า เรารังแก แล้วก็เอาเรื่อง 3 ปราสาทขึ้นสู่ศาลโลก แต่เรารู้ทันเพราะเราไม่รับศาลโลก กัมพูชาจึงยื่นไม่ได้ มันก็เลยเป็นอย่างนี้ ต่อไปก็ต้องดูว่า จะเป็นเกมอย่างไร หากจะกลับไปดีกันก็ต้องกลับไปอยู่จุดเดิม กำลังเคยอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น อย่างจุดที่ทหารไทยอยู่ก็ต้องอยู่ตรงนั้น ไม่มีการถอยอีกแล้ว ถ้าใครถอยก็ต้องตอบคำถามพี่น้องประชาชนเองแล้วกัน