ถกวาระลับ ครม. ยืนกรานกรอบ GBC หากกัมพูชาทำนิ่งไม่ทำตาม 4 ข้อตกลง ไทยไม่ลงนามแน่ “บิ๊กเล็ก” เผยหากประชุม GBC ไม่สำเร็จอาจเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย จะได้ไม่ประชุมให้เปลืองภาษี ลั่นสันติวิธีก็แล้ว กติกาสากลก็แล้ว ทำจนถึงที่สุดอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไทยจะไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพิจารณาวาระลับ โดย พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ได้เสนอกรอบการประชุมที่จะนำไปประชุมคณะ GBC สมัยพิเศษ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 23 ต.ค.นี้ ประกอบด้วย ประเด็นการถอนอาวุธหนัก ประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ประเด็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Scam) การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน หากไม่เป็นไปตาม 4 ข้อ ไทยขอไม่ลงนามในการประชุม GBC ครั้งนี้
โดยที่ประชุม ครม.ได้ความเห็นชอบกรอบดังกล่าว ส่วนประเด็นเชลยศึกที่ทางกัมพูชายื่นเงื่อนไขในเอกสารว่าด้วยความตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชา–ไทยนั้น ไทยมีเงื่อนไขว่า กัมพูชาต้องทำ 4 ข้อข้างต้นก่อน ถ้าไม่ทำจะไม่มีการส่งตัวเชลยศึกกลับ
ก่อนการประชุม ครม.วันนี้ (21 ต.ค.68) พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงความคาดหวังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ว่า การประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.ย.68 ที่ต้องไปประชุมที่มาเลเซีย เป็นการต่อเนื่องมาจากการที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปประชุมเมื่อวันที่ 17 ต.ค.68 ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประชุม และทางมาเลเซียขอให้ไปประชุมที่นั่น เพื่อให้ทั้ง 3 การประชุม ได้ประชุมร่วมกัน
ส่วนความคาดหวังนั้น ตนเองก็ 50:50 เพราะที่ผ่านมานายสีหศักดิ์ ได้ไปพูดคุย และได้กรอบมาแล้ว โดยการประชุม GBC ก็จะลงรายละเอียด ซึ่งครั้งที่ผ่านมา เราประชุม GBC และตกลงกันว่าจะไปลงรายละเอียดในการประชุม RBC แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนย้อนกลับมาประชุมที่ GBC อีกครั้ง หากการประชุมครั้งนี้สำเร็จถือเป็นสิ่งที่ดี และอยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ว่า ถ้าหนทางที่คลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี การเจรจาน่าจะไปทางนั้น แต่ยืนยันว่า เราจะไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน หากการประชุมครั้งนี้ไม่สำเร็จ ตนคงไม่ไปประชุมให้เปลืองภาษี
สำหรับการกำหนดกรอบจะต้องกำหนดให้ชัดเจนเป็นรูปธรรมใช่หรือไม่นั้น ยืนยันว่า ต้องกำหนดจากบทเรียนครั้งที่แล้วที่ให้โอกาส ความจริงแล้วนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่ว่าจะให้สันติวิธีอย่างเดียว แต่ได้ทำตามขั้นตอน ตามกติกาสากล ที่สังคมโลกใช้กัน แต่ถ้าทำจนถึงที่สุดแล้ว และกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมืออะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกัมพูชาไม่ยอมรับข้อเสนอ และไม่นำไปสู่การปฏิบัติ จะส่งผลต่อการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่จะมีการเซ็นสันติภาพหรือไม่ พล.อ. ณัฐพล กล่าวว่า ก็คงมีผล แต่คงไม่สนใจแล้ว เพราะเป็นเรื่องอธิปไตยของไทย เรามีศักดิ์ศรีของเรา และพยายามทำตามสันติวิธี ทำตามกติกาสากลแล้ว หากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมืออะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ส่วนต้องนำประเด็นในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ไปพูดคุยในเวที JBC หรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ตนเองอยากให้ฟังเหตุผล ว่า การประชุม JBC เป็นการพูดคุยเฉพาะพื้นที่อ้างสิทธิ์ รวมถึงเส้นอ้างสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย แต่พื้นที่นอกเหนือจากนั้น JBC ถือว่าเป็นอธิปไตยของไทย ดังนั้น ในชั้นต้นไม่ใช่เราไปรับเขตพื้นที่ของเขา แต่เราต้องนำที่ดินของไทยมาคืนประชาชน ซึ่งการประชุม JBC หากดีที่สุดคงตกลงกันได้เลย แต่ดีรองลงมา คือ อาจจะกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนไม่เป็นทางการ หรือ หากตกลงไม่ได้ ก็เอาเส้นอ้างสิทธิ์มา
พื้นที่นอกเส้นอ้างสิทธิ์ต้องเป็นของไทย หากกัมพูชาไม่ยอมพูดคุยเลย เราก็ไม่สนใจแล้ว เราถือตรงไหนก็ถือตรงนั้น ส่วนพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่อ้างสิทธิ์จะพูดคุยในการประชุมจีบี เพื่อให้กัมพูชาดำเนินการทำแผนอพยพ และหาก GBC ประชุมไม่สำเร็จ เวทีอาเซียนซัมมิท ในการลงนามสันติภาพก็มองว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้น พร้อมมองว่า การประชุมครั้งนี้หากไม่สำเร็จอาจจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย จะไม่มีการประชุมให้เปลืองภาษีอีกแล้ว