พลุฉลอง ดิวาลี ส่งผลมลพิษทางอากาศในอินเดีย

View icon 55
วันที่ 21 ต.ค. 2568 | 17.51 น.
รอบรั้วเอเชีย
แชร์
การจุดพลุดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี ทำให้เมืองหลวงของอินเดียต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศอย่างหนัก แม้ว่าจะเปลี่ยนมาใช้ "พลุรักษ์โลก" แล้วก็ตาม

ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.) ประชาชนทั่วประเทศอินเดีย พากันออกมาจุดพลุดอกไม้ไฟ, ประทัด และตะเกียงน้ำมัน พร้อมทั้งสวดมนต์เฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี (Diwali) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวฮินดู โดยเป็นการเฉลิมฉลองการกลับมาที่เมืองอโยธยา (Ayodhya) ของพระราม หลังปราบ "ราวณะ" หรือทศกัณฑ์ และช่วยนางสีดากลับมาได้สำเร็จ ตามความเชื่อของชาวฮินดู

ผลจากการเฉลิมฉลองดังกล่าวส่งผลให้สภาพอากาศในอินเดียย่ำแย่ลง โดยเฉพาะที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ วันนี้ (21 ต.ค.) บริษัท "ไอคิวแอร์" (IQAir) ของสวิตเซอร์แลนด์ วัดค่าคุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลีได้สูงถึง 442 ถือว่าอยู่ในระดับ "อันตราย" ทำให้กลายเป็นเมืองที่มีมลพิษสูงสุดในโลก โดยมีค่า PM 2.5 สูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกถึง 59 เท่า ขณะที่ แลนด์มาร์กสำคัญอย่างประตูอินเดีย (India Gate) และวัดอักชาร์ดัม (Akshardham Temple) ถูกบดบังด้วยหมอกควันพิษจนแทบมองไม่เห็น

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดของอินเดียผ่อนผันให้มีการจุดพลุดอกไม้ไฟได้ โดยอนุญาตให้ใช้ "พลุรักษ์โลก" ซึ่งปล่อยมลพิษน้อยกว่าพลุทั่วไปราว 30-50% ได้เป็นเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ในช่วงวันที่ 19-20 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า พบมีการจุดพลุนอกเวลาที่ทางการกำหนด และแม้ว่าจะใช้ "พลุรักษ์โลก" แต่ก็ยังส่งผลกระทบให้คุณภาพอากาศย่ำแย่ลงอย่างมาก

ทั้งนี้ เมืองหลวงของอินเดียและเขตใกล้เคียงมักเกิดหมอกควันหนาทึบทุกฤดูหนาว เนื่องจากอากาศเย็นและความกดอากาศทำให้เกิดการกักเก็บฝุ่นจากการก่อสร้าง, ไอเสียจากยานพาหนะ และควันไฟจากภาคเกษตรกรรม ทำให้ประชากรกว่า 20 ล้านคน ต้องประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ