วันนี้ (22 ต.ค. 68) จ.ภูเก็ต เผชิญวิกฤตหนักจากพายุฝนที่ตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ทั่วเกาะ ดินสไลด์ปิดถนน ด้านชายหาดกะรนถูกน้ำทะเลกัดเซาะเสียหายกว่า 2 กิโลเมตร สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ชาวบ้านในหลายชุมชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก
โดยฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงรุ่งเช้า โดยไม่มีท่าทีจะหยุด ส่งผลให้ระดับน้ำท่วมสูงในหลายจุด โดยเฉพาะ ถนนศรีสุนทร อ.ถลาง กลายสภาพเป็นคลองขนาดย่อม ระดับน้ำสูงถึงครึ่งเมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่รถใหญ่ต้องฝ่ากระแสน้ำอย่างยากลำบาก ชาวบ้านต้องช่วยกันวางกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้านเรือน
ที่ บ้านป่าสัก ซอย 1 ต.เชิงทะเล สถานการณ์ยิ่งวิกฤต น้ำจากภูเขาไหลหลากลงสู่ชุมชนในช่วงกลางดึก ปริมาณน้ำมหาศาลเกินระบบระบายน้ำจะรองรับได้ ทำให้พื้นที่บางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ กลายเป็นแอ่งขังขนาดใหญ่
ทางด้านพื้นที่ ป่าตอง ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจท่องเที่ยวของภูเก็ต ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ดินสไลด์ปิดถนนเขา 50 ปี ส่งผลให้การสัญจรเข้า-ออกย่านดังกล่าวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ชาวบ้านในพื้นที่ต้องอพยพหนีออกจากบ้านกลางสายฝน บางจุดกลายเป็นทะเลโคลน รถติดยาวข้ามคืน หน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือและเปิดทางสัญจร
ไม่เพียงแค่ฝนและดินถล่มเท่านั้น ล่าสุดเกิดปรากฏการณ์ น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งกะรน อย่างรุนแรง ระยะทางเสียหายยาวกว่า 2 กิโลเมตร ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่ริมชายหาดล้มลงหลายต้น เทศบาลเมืองกะรนต้องนำรถแม็คโครเข้าพื้นที่เพื่อเปิดทางให้น้ำท่วมบริเวณหน้าหาดระบายกลับลงทะเล หวั่นสถานการณ์ลุกลามกลายเป็นพายุซัดฝั่งรอบใหม่
นางอรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลกะรน เปิดเผยว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีทั้งฝนตกหนัก น้ำทะเลหนุน และคลื่นลมแรง เกิดการกัดเซาะชายฝั่งจนทำให้ต้นมะพร้าวล้มลง เพราะทางน้ำถูกเบี่ยงเบนจากแนวปกติ ตอนนี้ทางเทศบาลตำบลกะรนได้นำรถแม็คโครมาตัดทางน้ำที่ท่วมขังอยู่บริเวณลานหน้าองค์พ่อปู่พญานาคให้น้ำไหลลงสู่ทะเลตามปกติแล้ว หากไม่มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ความเสียหายอาจเพิ่มมากกว่านี้”
นางอรุณศรี ยังได้กล่าวเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะใกล้ภูเขาและพื้นที่แอ่งน้ำ ให้เตรียมพร้อมอพยพทันทีหากพบสัญญาณอันตราย เช่น เสียงน้ำป่า หรือดินเริ่มเคลื่อนตัว พร้อมหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่มีน้ำท่วม และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด
สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ทีมข่าวจะติดตามความคืบหน้าและรายงานอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนในพื้นที่รักษาความปลอดภัย และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างเต็มที่