สนามข่าว 7 สี - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา ยังตามล่าตัว นายช้าง อายุ 47 ปี ที่คาดว่าเสพยาเสพติดหนักจนประสาทหลอน ถืออาวุธทั้งปืน ไขควง บุกทำร้ายญาติตัวเองถึงในบ้าน บาดเจ็บ 4 คน จนถึงตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ แต่ตำรวจได้เบาะแสผู้ก่อเหตุ เข้าไปขอซุกหัวนอนที่วัดแห่งหนึ่ง
เมื่อวาน ทีมสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และสืบสวน สภ.ภาชี กระจายกำลังค้นหาตามจุดต้องสงสัย ทั้งภายในวัดและชุมชนโดยรอบบ้านหลังเกิดเหตุ บริเวณซอยเทศบาล 15 หมู่ที่ 2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตามล่าหา นายนพดล หรือ นายช้าง ผู้ก่อหตุ
โดยไปได้ภาพกล้องวงจรปิด จุดแรก เวลาประมาณ 19.55 น. คืนวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหลังเกิดเหตุแล้ว บันทึกภาพ นายช้าง ขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ออกจากบ้าน ผ่านซอยริมคลองชลประทาน โดยเลี้ยวขวาขี่ย้อนศรออกจากพื้นที่ มุ่งหน้าไปตามถนนสายภาชี-หินกอง ซึ่งจากจุดนี้ตำรวจไล่กล้องต่อไปอีกเรื่อย ๆ ห่างบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร จนเข้าเขตอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กล้องวงจรปิดต่อมา เวลา 20.15 น. ปรากฏภาพ นายช้าง ขี่รถเลี้ยวเข้าประตูวัดนางชี ขี่รถวนรอบศาลาสวดศพได้สักพัก ก็ทำทีขอเข้าห้องน้ำ ก่อนเดินเลี่ยงไปยังกุฏิพระ
พระลูกวัด เล่าว่า ตอนแรกไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นผู้ก่อเหตุหลบหนีคดี โดยเข้ามาขอนอนในวัด อ้างว่าขี่รถจะไปจังหวัดนครราชสีมา แต่หลงทาง ซึ่งตามระเบียนต้องขอดูบัตรประชนชน ชายคนดังกล่าวไม่มีแสดง พระจึงไม่กล้าให้นอน โดยขณะขี่รถออกจากวัด พระบอกว่าสังเกตเห็นชายคนนี้พกปืนมาด้วย
ทางด้านคดี พันตำรวจโท ภานุวัฒน์ อ้นอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.ภาชี เผยว่า เมื่อวานรวบรวมหลักฐานยื่นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อออกหมายจับ นายนพดล หรือ นายช้าง แล้วในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น โดยยืนยันว่าต้องตามจับกุมตัวได้แน่
ขณะเดียวกันเมื่อวาน นายไพโรจน์ ติณชาติอารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าไปเยี่ยมครอบครัวผู้บาดเจ็บ ที่บ้านในซอยเทศบาล 15 หมู่ที่ 2 ตำบลภาชี มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวนหนึ่ง โดยคุณยายลำใย อายุ 77 ปี เปิดบาดแผลถูกไขควงแทงให้ดู
ส่วนลูกสาวอายุ 47 ปี ที่ถูกยิง 1 นัด แพทย์ผ่าตัดเอากระสุนปืนออกแล้ว แต่ยังต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลอีกสักระยะ ทำให้ตนเองต้องอยู่บ้าน กับหลานชาย 2 คน โดยยอมรับกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะย้อนมาก่อเหตุซ้ำ เมื่อวานจึงตัดสินใจเก็บข้าวของที่จำเป็น พาหลานย้ายไปอาศัยอยู่บ้านญาติชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย
