รวบ 2 สาวเมียนมา ซุก “ไอซ์” ไว้ในชุดชั้นใน มูลค่า 2 ล้านบาท

รวบ 2 สาวเมียนมา ซุก “ไอซ์” ไว้ในชุดชั้นใน มูลค่า 2 ล้านบาท

View icon 149
วันที่ 23 ต.ค. 2568 | 10.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดักรวบ 2 สาว ชาวเมียนมา นั่งรถทัวร์แอบซุก “ไอซ์” จำนวน 12 ถุง มูลค่า 2 ล้านบาท ไว้ในชุดชั้นในลักลอบขนจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.พังงา

วันนี้ (23 ต.ค. 68) นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา, น.ส.อุมาพร แพใหญ่ กำนัน ต.ลำแก่น และฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ได้นำกำลังสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา และสมาชิก อส. อ.ท้ายเหมือง กวาดล้างยาเสพติด โดยได้จับกุม 2 สาว ชาวเมียนมา คือ นางโซ อายุ 40 ปี และ นางซัน อายุ 41 ปี พร้อมของกลาง “ไอซ์” น้ำหนักรวมถุง 1,395.17 กรัม มูลค่า 2 ล้านบาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

โดยการจับกุมครั้งนี้ด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา ได้รับแจ้งจากสายลับประกอบกับข้อมูลจากการจับกุมคดียาเสพติดที่ผ่านมาว่า วันที่ 22 ตุลาคม 2568 จะมีการลักลอบขนยาเสพติด (ไอซ์) มากับรถทัวร์โดยสารจากประเทศเมียนมา ขึ้นรถจาก จ.ระนอง เข้ามาผ่าน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยมีจุดหมายที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา จึงได้ลงพื้นที่มาถึง บขส. อำเภอตะกั่วป่า เพื่อซุ่มสังเกตการณ์ผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยรถทัวร์ จนเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วานนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบหญิงต้องสงสัย 2 คน เดินลงมาจากรถทัวร์ ชุมพร-ภูเก็ต จึงแสดงตัวขออนุญาตเข้าตรวจค้นตัว จนพบไอซ์จำนวน 12 ถุง แอบซุกซ่อนในชุดชั้นในของผู้หญิงคนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมนำไอซ์ทั้งหมดไปชั่งที่ร้านทองแห่งหนึ่ง รวมน้ำหนักรวมถุง 1,395.17 กรัม มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท 

จากกการสอบสอบเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองคนเข้ามารับจ้างอยู่ในพื้นที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และผันตัวมาเป็นคนค้ายาเสพติด ซึ่งมีชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง “เอราวัณ” พังงา เฝ้าติดตามมาตลอดจนจับกุมได้ในที่สุด
หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมของกลางและเอกสารต่าง ๆ ลงบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป