“ฮุน มาเนต” อ้าง ไทย-กัมพูชา ตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 แก้ปัญหาบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว

“ฮุน มาเนต” อ้าง ไทย-กัมพูชา ตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 แก้ปัญหาบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว

View icon 666
วันที่ 23 ต.ค. 2568 | 14.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ฮุน มาเนต” อ้าง ไทย-กัมพูชา ตกลงใช้แผนที่ 1/200,000 แก้ปัญหา บ้านโจกเจย–หนองจาน และ บ้านเปรยจัน-หนองหญ้าแก้ว ยืนยันไม่ได้ยกดินแดนส่วนใดให้แก่ไทย เพื่อแลกกับการหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ

วันนี้ (23 ต.ค. 68) พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า เรียนเพื่อนร่วมชาติที่รักทั้งหลาย วันนี้ ข้าพเจ้าขอแจ้งให้พวกท่านทราบถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขสถานการณ์ที่บ้านโจกเจย–หนองจาน และบ้านเปรยจัน-หนองหญ้าแก้ว ซึ่งได้มีความคืบหน้าไปสู่การเจรจาที่ชัดเจนและสร้างสรรค์มากขึ้น ทั้งกัมพูชาและไทยกำลังหารือเกี่ยวกับหลักการทางกฎหมายเพื่อหาทางออกอย่างสันติ

โดยปัญหาดังกล่าวเริ่มต้นขึ้น เมื่อทหารไทยได้นำลวดหนามและสิ่งกีดขวางมาล้อมบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้านกัมพูชาบางส่วนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ทุกข์ยากและลำบาก และยังทำให้เกิดความกังวลในหมู่ชาวกัมพูชาทั้งภายในและภายนอกประเทศอีกด้วย

ทางรัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรกในการป้องกันการลุกลามของปัญหา ปกป้องพลเรือน และแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุดด้วยความอดทนอดกลั้นและสันติวิธี เนื่องจากการใช้ความรุนแรงไม่เพียงแต่แก้ปัญหาไม่ได้แล้ว แต่ยังอาจขยายขอบเขตความขัดแย้งไปยังพื้นที่อื่น ๆ และจะส่งผลกระทบต่อพลเรือนรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจความโกรธแค้นของประชาชนกัมพูชา เพราะบางครั้งมาตรการของรัฐบาลกัมพูชาต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลชัดเจน ขณะที่ความตึงเครียดยังคงดำเนินต่อไป บางคนอาจหมดหวังหรือเข้าใจผิดว่ารัฐบาลกัมพูชายอมยกที่ดินแดนของกัมพูชาเพื่อแลกกับสันติภาพ ทั้งนี้ ข้าพเจ้าขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยมีการทำข้อตกลงลับหรือการสัมปทานดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาในรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น และกัมพูชาไม่เคยและจะไม่ละเมิดอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในขณะเดียวกันกัมพูชาก็จะไม่ยอมให้มีการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาเช่นกัน

ทั้งนี้ ปัญหาชายแดน กัมพูชา-ไทย เป็นประเด็นที่ซับซ้อนและกินเวลามาหลายศตวรรษ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกัน เพื่อรับประกันสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งทางออกที่ยอมรับได้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส ความยินยอมร่วมกัน และสัญญาทางกฎหมายที่ปราศจากการบีบบังคับจากทั้งสองฝ่าย

โดยเรื่องงานวัดและปักปันเขตแดนอยู่ภายใต้อำนาจของคณะกรรมการเขตแดนร่วม กัมพูชา-ไทย (JBC) และต้องดำเนินการตามสนธิสัญญา อนุสัญญา และข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างสองประเทศ คือ กัมพูชา-ไทย JBC ได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมานานกว่า 20 ปี แม้ว่าจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม

ในระหว่างการประชุม JBC เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันอย่างละเอียดและสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในบ้านโจกเจย–หนองจาน และบ้านเปรยจัน-หนองหญ้าแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหลักหมุดชายแดนหมายเลข 42 และ 47ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินกิจกรรมทางเทคนิคต่อไป สำหรับการวัดและการกำหนดเขตแดนชั่วคราว โดยใช้แผนที่ 1/200,000 สนธิสัญญาปี ค.ศ. 1907 และบันทึกการปักปันเขตแดนของ ฝรั่งเศส-สยาม เป็นพื้นฐาน ผลลัพธ์จะถูกตรวจสอบเทียบกับการยึดครองและการตั้งถิ่นฐานที่แท้จริงของผู้อยู่อาศัยทั้งสองฝ่าย

และด้วยวิธีการที่โปร่งใสและถูกต้องนี้เท่านั้น ทั้งสองประเทศจึงจะสามารถบรรลุแนวทางแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมั่นใจได้ว่าปัญหาจะไม่ยืดเยื้อกินเวลาไปอีกหลายปีข้างหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง