สนามข่าว 7 สี - ตามต่อจากที่นำเสนอไปเมื่อวาน คดียกเค้าบ้านประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อวานตำรวจคุมตัวหัวโจก ที่ตามจับกุมได้เป็นคนสุดท้ายไปทำแผนฯ โดยช่วงที่ผู้ต้องหาเจอหน้าเจ้าทุกข์ รีบก้มกราบขอขมา
เป็นภาพช่วงที่ ตำรวจคุมตัว นายศราวุฒิ หรือ นายเอ อายุ 41 ปี เข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านหลังเกิดเหตุ อยู่ที่อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง โดยจังหวะที่ผู้ต้องหาเจอหน้า นายอดิศร ตันเฮงชวน ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ เจ้าของบ้าน ผู้ต้องหารีบก้มลงกราบขอขมา คล้ายกับว่าสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป
ทีนี้ ยังมีทรัพย์สินอีกหลายรายการ โดยเฉพาะพระเครื่องสมเด็จ และหลวงปู่ทวด รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ที่ตำรวจยังตามกลับคืนให้เจ้าทุกข์ไม่ครบ และตามที่ผู้ต้องหาให้การว่า พอก่อเหตุเสร็จแบ่งเงินกับเพื่อนคนละครึ่ง เพื่อนถูกจับส่งดำเนินคดีไปก่อนหน้าแล้ว ตนเองได้ทองคำหนัก 8 บาท, พระเครื่อง และเงินประมาณ 1 ล้านบาท อ้างทำบางส่วนตกทะเลระหว่างหลบหนี แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ
เมื่อวานตำรวจ พร้อมกับเจ้าทุกข์ร่วมกันซักถามผู้ต้องหาอีกครั้ง แต่ให้การวกวน ไม่ยอมบอก เชื่อว่าผู้ต้องหาเตรียมตัวมาอย่างดี ว่า ถูกจับ ควรจะให้การไปในทิศทางใด เบื้องต้นทรัพย์สินที่ตำรวจตามยึดคืนมาได้จากผู้ต้องหารายแรก จับที่กุมส่งดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 700,000 บาทเท่านั้น
และเมื่อวานตามยึดได้เพิ่ม 30,000 บาท พระเครื่องจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ใช่พระสมเด็จ และหลวงปู่ทวด ซึ่งตำรวจเชื่อว่าทรัพย์สิน เงินสด ที่หาไม่พบ ผู้ต้องหาน่าจะนำไปแปลงซื้อทรัพย์สินอื่นหรือไม่ ฝากญาติเก็บไว้ ตำรวจยืนยันว่าจะติดตามกลับคืนเจ้าทุกข์ให้ได้มากที่สุด
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ยังเปิดเผยอีกว่า เท่าที่ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง นายศราวุฒิ ไม่ธรรมดา มีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดติดตัว และลักทรัพย์บ้านประชานชนในพื้นที่เมืองตรัง อีกอย่าง 7-8 หลัง โดยแผนประทุษกรรมแต่ละครั้ง เลือกก่อเหตุในบ้านหลังใหญ่ สูง 2 ชั้น เพื่อไม่ให้เจ้าของเห็นตัวง่าย ๆ ซึ่งเป็นแผนประทุษกรรมแบบซ้ำ ๆ
