เช้านี้ที่หมอชิต - เป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ก็ทนทุกข์ เจ็บปวดพอแล้ว ยังมาเจอมิจฉาชีพหลอกซ้ำ ให้ความหวังเดี๋ยวจบคดีจะได้เงินคืน เมื่อวานตำรวจ 191 บุกค้นบ้านเช่าย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ รวบชายชาวจีน 3 คน เช่าบ้านใช้เป็นฐานหลอกลวงผู้เสียหาย แต่ละเดือนได้เงินเข้ากว่า 10 ล้านบาท
ตำรวจเข้าค้นภายในบ้านหลังดังล่าว อยู่ในซอยลาดพร้าว 3 กรุงเทพฯ พบเราเตอร์ 5 เครื่อง Pocket WiFi 1 เครื่อง รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จำนวนมาก ที่เชื่อว่าใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย และพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ เป็นแบบฟอร์มพูดหลอกลวงเหยื่อหลายภาษา เดี๋ยวไปดูภาพช่วงหนึ่งในขณะตำรวจเข้าค้นบ้าน ได้คุยกับหนึ่งในผู้ถูกจับกุม
ชายคนนี้ ชื่อว่า "นายจาง" อายุ 38 ปี ถูกจับกุมตัวเพราะอยู่ในบ้านหลังเดียว กับผู้ต้องหาเป็นชายชาวจีน อีก 2 คน โดยนายจาง อ้างว่า ตัวเองเป็นแค่นักท่องเที่ยว เพิ่งเข้าไทยมาได้แค่ 2 เดือนกว่า โดยใช้บ้านหลังนี้ เป็นที่พักชั่วคราว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับขนวนการหลอกลวงผู้เสียหายเลย
แต่ตำรวจไม่เชื่อ เพราะจากข้อมูลพบว่า "นายจาง" เข้ามาไทย เมื่อเดือนสิงหาคม จริง โดยเข้ามาทาง สปป.ลาว ส่วนผู้ต้องหาชาวจีน อีก 2 คน เข้ามาช่วงเดือนตุลาคม ผ่านทางประเทศกัมพูชา จึงเชื่อว่า นายจาง น่าจะเป็นผู้จัดการ
สำหรับพฤติการณ์ของแก๊งนี้มักจะอ้างตัวเองเป็นบริษัททนายให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับคนที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ จะพยายามหลอกเหยื่อรับดูแลเรื่องคดี ติดตามทรัพย์สินคืนให้ ระหว่างนั้นก็จะคอยเรียกค่าใช้จ่ายเรื่อย ๆ พร้อมกับหลอกว่า เงินที่ถูกหลอกไปจะได้คืนเมื่อคดีจบ ซึ่งจากการตรวจเอกสารทางการเงิน พบว่าปี 2567 พบว่า มีรายได้มากถึงกว่า 10 ล้านบาทเลยทีเดียว
จากข้อมูลยังเจอว่า ไม่ได้จ่ายให้แค่คนใดคนหนึ่ง แต่มีชาวจีนหมุนเวียนกันเข้ามาเป็นวงรอบ ซึ่งแปลได้ว่า ยังมีอีกหลายคน ที่ตำรวจต้องขยายผลจับกุม ส่วนบ้านหลังนี้ พบว่าเช่าโดยชื่อหญิงชาวไทย เช่ามาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว เดือนละ 30,000 บาท คาดว่าน่าจะถูกชาวจีน ว่าจ้างมาอีกที นอกจากนี้ยังเจอว่า ขบวนการนี้ ยังทำสัญญาปลอมขึ้นมาอีก 1 ฉบับ สำแดงข้อมูลเท็จว่าชาวจีนเช่าบ้านหลังนี้เอง เพื่อจะได้นำเอกสารไปใช้เปิดบริการอินเทอเน็ต
เบื้องต้น ตำรวจเตรียมดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมด ฐานนำเข้า ทำ และมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการดัดแปลงถอดประกอบเครื่อง Simbox เอง และความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรที่เกี่ยวข้อง