พ่อตายเพราะทุ่นระเบิดของเขมร แถมที่ดินยังโดนยึดไป ลูกสาวต่อสู้ทวงคืนนาน 40 ปี จนป่วยติดเตียงก็ยังไม่ได้คืน ลั่นหากรัฐฯ ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ที่ดินจะหายไปมากกว่า 20 ไร่
จากกรณีที่เฟซบุ๊กของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความถึงชาวกัมพูชาว่า ที่ประชุม JBC ไทยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ทำให้ประชาชนหลายคนเป็นกังวลใจ
โดยเฉพาะเจ้าของที่ดินแปลง A เนื้อที่ประมาณ 38 ไร่ ซึ่งจะเสียพื้นที่ไปมากกว่า 50% หากประเทศไทยยอมรับแผนที่ 1:200,000
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสุบิน เที่ยงลาย อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานหลายปี เจ้าของที่ดินแปลง A ที่ได้รับสืบทอดมาจาก นายบุญมา สุขสวัส ผู้เป็นพ่อ เล่าให้ทีมข่าวฟังถึงเรื่องราวในอดีตว่า 50 ปีก่อน พ่อเคยพาไปเที่ยวเล่นทำกินที่ไร่นาตามปกติ จนกระทั่งมีคนกัมพูชาอพยพเข้ามา ขอใช้พื้นที่ให้กับผู้ลี้ภัย
แต่เมื่อเหตุการณ์ในกัมพูชาสงบ ที่ดินผืนนั้นกลับไม่สามารถเข้าไปทำกินได้เหมือนแต่ก่อน เพราะมีทุ่นระเบิดอยู่มาก ซึ่งครอบครัวต้องเสียเงินส่วนตัวในการเก็บกู้ทุนระเบิด ซ้ำร้ายผู้เป็นพ่อก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะทุ่นระเบิดที่กัมพูชาวางไว้ ตลอดระยะเวลา 40 ปีไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเองได้ เพราะจะมีทหารกัมพูชาถือปืนมาขู่ขัดขวาง ให้สิทธิ์เข้าไปแค่เลี้ยงวัวควายเท่านั้น
แต่ปัจจุบันมีความหวังว่า ทหารและหน่วยราชการจะสามารถเรียกคืนพื้นที่มาได้ และ รับไม่ได้ หากรัฐบาลยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 ซึ่งจะทำให้ตนเสียดินไปมากกว่า 20 ไร่ และเชื่อว่าสิ่งที่นายฮุน มาเนตพูด ไม่เป็นความจริง ซึ่งสอดคล้องกับกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมาปฏิเสธว่าที่ประชุม JBC ไม่มีการกล่าวถึงแผนที่1 : 200,000
ขณะที่การปฏิบัติการของกองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่วันนี้ทีมข่าวได้พบเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด TMAC เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเพื่อเตรียมความพร้อมในการเก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกับกัมพูชาในวันพรุ่งนี้แล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุขอบเขตการเก็บกู้ได้ว่าจะเริ่มจากจุดใดในพื้นที่