ครั้งแรกรอด จึงทำครั้งที่ 2! หนุ่มนำทองปลอม 1 บาท มาจำนำ ร้านทองจำได้หน้าได้ ล็อกประตู ขังไว้ไม่ให้ออกแล้วเรียกตำรวจมาจับ

ครั้งแรกรอด จึงทำครั้งที่ 2! หนุ่มนำทองปลอม 1 บาท มาจำนำ ร้านทองจำได้หน้าได้ ล็อกประตู ขังไว้ไม่ให้ออกแล้วเรียกตำรวจมาจับ

View icon 1.3K
วันที่ 24 ต.ค. 2568 | 19.21 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ครั้งแรกรอด จึงทำครั้งที่ 2! หนุ่มนำทองปลอม 1 บาท มาจำนำ ร้านทองขอตรวจสอบบัตรประชาชน ก่อนพบว่า เป็นคนเดียวกันกับที่นำทองคำปลอมมาหลอกขาย เมื่อปีก่อน ร้านทองจึงล็อกประตู ขังไว้ไม่ให้ออกแล้วเรียกตำรวจมาจับ

24 ตุลาคม 2568 ร.ต.อ.มริสา ศรีสุยงค์ ร้อยเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด ประสานชุดสืบสวน "สุรสีห์" สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งจากร้านทองแห่งหนึ่ง แถวตลาดหนองแคน ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ ว่ามีหนุ่มคนหนึ่ง นำสร้อยข้อมือทอง หนัก 1 บาท มาจำนำ และตรวจพบว่าเป็น "ทองปลอม" จึงแจ้งตำรวจ ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดี กับผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกเจ้าของบ้านล็อกประตูไม่ให้ออกจากร้าน เพื่อรอตำรวจ จากการตรวจสอบจากบัตรประชาชน ทราบว่าผู้ก่อเหตุ ชื่อนายปริญญา อายุ 26 ปี ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด เป็นผู้นำทองปลอมมาจำนำ 

เจ้าของร้านทอง เผยว่า ผู้ก่อเหตุเข้ามาในร้าน ก็นำสร้อยข้อมือทองมาจำนำ และชั่งน้ำหนักได้ 1 บาท ยังไม่ทันตกลงราคากัน แต่ทางร้านขอดูบัตรประชาชน เมื่อเห็นบัตรประชาชน ร้านจำได้ว่า เป็นชื่อเดิมกับชายคนที่เคยเอาทองมาจำนำทองหนัก 1 สลึง ราคา 17,000 บาท ที่ร้าน เมื่อเดือนนี้ ของปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นทางร้านไม่ทราบว่า "เป็นทองปลอม" แต่เมื่อส่งไปขายที่ กทม. ทองคำเส้นนั้นถูกตีกลับมา เนื่องจาก "ทองปลอม" ทางร้านจึงจดชื่อไว้ และเมื่อดูบัตรประชาชน ก็จำได้ เจ้าหน้าที่ร้านทองจึงกดล็อกประตูไม่ให้ออกแล้ว แล้วตรวจสอบพบว่าทองที่นำมาเป็นทองแท้ เฉพาะตะขอ ส่วนอื่นปลอมทั้งหมด แจ้งตำรวจ มาควบคุมตัวดังกล่าว

ซึ่งหลังจากการถูกจับกุม ผู้ก่อเหตุพยายามต่อรองว่า สำนึกในความผิด และขอให้ไม่ไห้เอาเรื่อง ซึ่งเจ้าของร้านทองก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ยอมที่จะไม่เอาเรื่องในครั้งนี้ แต่ยื่นเงื่อนไงว่า ให้หาเงิน 17,000 บาท  ที่เอาไปจากการจำนำทองครั้งที่แล้ว ก็จะไม่ติดใจเอาเรื่อง และให้โอกาสติอต่อญาติ เพื่อหาเงินมาคืน ก็จะไม่เอาเรื่อง แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมีเงินที่จะช่วยเหลือ และพยายามต่อรองว่า สำนึกผิดขอผ่อนใช้เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 17 เดือน แต่เจ้าของร้านไม่ยอมรับเงื่อนไข เพราะเกรงว่าจะไม่ได้เงินทุกเดือน 

สุดท้ายก็ต่อรองว่า ยอมให้ยึดรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ I100 สีแดง แทน แต่เจ้าของร้านไม่ยอมรับ เนื่องจากรถสภาพเก่า และไม่มีการจดต่อทะเบียน  และประเมินว่าราคาน่าจะไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่งตกลงกันไม่ได้ จึงควบคุมตัวไปไว้สถานีตำรวจ เพื่อให้หาเงินมาชดใช้ ซึ่งเจ้าของร้านทองก็บอกว่าไม่ติดใจเรื่องที่เกิดเหตุขึ้น เพราะถือว่าการฉ้อโกง ยังไม่สำเร็จ และหากได้เงินคืนก็จะไม่ติดในเรื่องเก่า และยังใจดี บอกว่าหากได้เงินคืน ก็ให้เรื่องทุกอย่างจบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง