สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - "นายกฯ อนุทิน" เดินทางถึงมาเลเซียแล้ว โดยเข้าหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนร่วมลงนามสันติภาพ ไทย-กัมพูชา วันนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารซูบัง ประเทศมาเลเซีย เวลา 21.30 น. ของเมื่อวาน โดยมี ดาโต๊ะ ซรี โมฮาเม็ด คาเล็ด นอร์ดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของมาเลเซีย ในฐานะผู้แทนรัฐบาลมาเลเซีย ให้การต้อนรับ
ซึ่งวันนี้ นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งร่วมพิธีลงนามเอกสารรับติมอร์-เลสเต เข้าเป็นสมาชิกประเทศอาเซียนอย่างเป็นทางการ
ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จึงเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเตรียมพร้อมเข้าร่วมการประชุมทันทีที่เดินทางถึงโรงแรมที่พัก กรุงกัวลาลัมเปอร์ เวลา 22.30 น. โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมด้วย
แต่ที่น่าจับตามองคือ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้โอกาสนี้ หารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน แบบสองต่อสอง โดยจะคุยเรื่องขอการสนับสนุนเร่งลงนามในสัญญาทางการค้า "ภาษีทรัมป์" ซึ่งจะพยายามอย่างเต็มที่ ขอให้พิจารณาอัตราภาษีให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
รวมถึงจะเชิญ นายโดนัล ทรัมป์ มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะว่างเว้นจากการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มา 10 กว่าปีแล้ว พร้อมกันนี้ จะมีการพูดคุยถึงการสนับสนุนทางด้านความมั่นคง ด้านการค้า เรื่องที่เป็นอุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงการปราบปรามสแกมเมอร์ ด้วย ซึ่งมีเวลาพบกัน 5 นาที
ส่วนการลงนามสันติภาพ นายกรัฐมนตรี บอกว่าการมาถึงจุดนี้ มันมีเงื่อนไขและมีข้อปฏิบัติที่ต่างฝ่ายต่างตกลงกัน แต่การปฎิบัติจะต้องเริ่มจากทางฝ่ายกัมพูชาที่มี 4 ข้อ
ล่าสุดได้รับข่าวค่อนข้างจะเป็นบวกจากทางการกัมพูชาว่า เมื่อมีการลงนามเรียบร้อย จะดำเนินการตามเงื่อนไขหนึ่งและสอง เมื่อมีความมั่นใจว่าต่างฝ่ายต่างปฏิบัติตามข้อผูกพันกันแล้ว ไทยจะส่งคืนตัวประกันทหารเมียน 18 คน เชื่อมั่นว่า กัมพูชาไม่กล้าผิดเงื่อนไข เพราะการลงนามสันติภาพ เป็นการลงนามต่อหน้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เป็นประธานของอาเซียน
สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน วันที่ 27-28 ตุลาคม นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะกลับมาประชุมให้จบ เพราะมีเรื่องของการพบปะผู้นำอีกหลายประเทศ และจะต้องมีการไปต่อประชุมที่เอเปก ที่จะมีการเจรจาแบบทวิภาคี ซึ่ง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศที่มีความสำคัญ
