ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ร่วมแถลงการณ์ลงนามข้อตกลงสันติภาพ ไทย-กัมพูชา อ้างว่าการเป็นตัวกลางไกลเกลี่ยของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ สามารถช่วยผู้คนทั้งสองประเทศนับล้านชีวิต และทหารกัมพูชา 18 นาย จะได้รับการปล่อยตัว
วันนี้ (26 ต.ค. 68) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงสันติภาพ ไทย-กัมพูชา ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ร่วมแถลงว่า มันน่าตื่นเต้นมาก เพราะเราได้ทำสิ่งที่หลายคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ข้อตกลงสันติภาพนี้จะช่วยผู้คนได้หลายล้านชีวิต และผมมีความสุขมากกับทั้ง ไทย และ กัมพูชา ที่บรรลุข้อตกลงสันติภาพ ร่วมถึง มาเลเซีย ด้วย ที่ค่อยช่วยเหลือผมมาก ผมซาบซึ้งใจมาก บางทีข้อตกลงสันติภาพนี้อาจไม่สำเร็จถ้าหากไม่มีมาเลเซีย และผมขอบอกเลยว่า ไทยกับกัมพูชาเขารักกันมาก ผมไม่ชินเลยกับการทำข้อตกลงแบบนี้ เพราะปกติผมมักจะเจอแต่ความเกลียดชังกันมาก
ณ บัดนี้ สุภาพบุรุษทั้งสองท่านกำลังจะลงนามในข้อตกลงที่พวกเราเรียกว่า ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นชื่อที่ดี โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะยุติการสู้รบทั้งหมด และร่วมกันสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และทหารกัมพูชา 18 นาย จะได้รับการปล่อยตัว และภายใต้ข้อตกลงนี้ ผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงมาเลเซีย จะลงพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าสันติภาพจะคงอยู่อย่างยั่งยืน และไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเป็นเช่นนั้น
ผมแค่รู้สึกว่ามันมีบางสิ่งที่ผมพอจะสามารถทำได้ และผมทำมันได้ดี ทั้งที่ผมไม่จำเป็นต้องทำหรอก แต่ถ้าผมสามารถสละเวลาไปช่วยชีวิตผู้คนได้หลายล้านคน นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ผมนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว รัฐบาลของผมสามารถยุติ 8 สงคราม ภายใน 8 เดือน ซึ่งไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นมาก่อน และจะไม่มีวันเกิดขึ้น ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะมีประธานาธิบดีคนไหนที่แก้ปัญหาสงครามได้แม้แต่ครั้งเดียว และผมรักที่จะทำมัน ผมไม่ควรพูดว่ามันเป็นงานอดิเรกหรอก เพราะมันจริงจังมากกว่างานอดิเรกซะอีก แต่มันเป็นสิ่งที่ผมทำได้ดี
ทั้งนี้ ข้อพิพาทชายแดนกัมพูชาทำให้เกิดการใช้กำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 2 ประเทศมีผู้เสียชีวิตรวมกัน 48 คน ผู้คนต้องโยกย้ายถิ่นฐานราว 300,000 คน