วันนี้ (27 ต.ค. 68) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 ,พ.ต.อ.วิชยานนท์ เอกตาแสง ผกก.สน.ท่าข้าม ,พ.ต.อ.ธิติพงศ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนกร จันรอด รอง ผกก.สส.สน.ท่าข้าม พร้อม พ.ต.ท.ประทีป กาวิน รอง ผกก.สส.บก.น.9 ,พ.ต.ท.ธนโชติ นุ้ยเล็ก สว.สส.บก.น.9 , พ.ต.ท.ไกรฤกษ์ สิทธิโชติ สว.สส.สน.ท่าข้าม และกำลังฝ่ายสืบสวน จับกุม นายสุรัตน์ อายุ 66 ปี
โดยสามารถจับกุมได้ห้องพักเลขที่ 112 ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ซอยศรีด่าน 7 ต.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 969/2568 ลงวันที่ 20 ต.ค. 68 กระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” พร้อมของกลาง รถยนต์ สีขาว ทะเบียน 5ขก 5162 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ในวันก่อเหตุ และตรวจยึดพระที่คืนมาได้ 18 รายการ
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีคนลักขโมยทรัพย์สินจากห้องเลขที่ 10/202 ตึก B ชั้น 7 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซอยบางขุนเทียน 16 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 68 ได้แหวนทองคำไป 1 สลึง และวันที่ 22 ก.ย. 68 มาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง ได้พระเลี่ยมทอง 29 องค์ สร้อยข้อมือ 4 เส้น น้ำหนัก 3 บาท รวมทรัพย์สินที่ถูกลักขโมยไปมูลค่า 1.2 ล้านบาท หลังจากรับแจ้งเหตุดังกล่าว ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.น. 9 ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม ไล่ล่าจนสามารถจับกุม นายสุรัตน์ ได้ พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมาก เช่น พระเครื่อง 48 องค์ เครื่องประดับ และเงินสดกว่า 1 แสนบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า อาศัยช่องโหว่ประตูหนีไฟที่ไม่ล็อก ใช้แผ่นพลาสติกสอดเปิดประตู ก่อนเข้าไปลักทรัพย์ และนำของกลางไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและเล่นการพนัน โดยก่อเหตุในคอนโดฯเดิม 2 ครั้ง และลงมือเพียงลำพัง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยต้องคดีเมื่อปี พ.ศ. 2559 และ 2563 ในคดีอนาจารเด็ก เมื่อพ้นโทษออกมาได้วิชามาจากในเรือนจำตระเวนก่อเหตุมาหลายครั้ง จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะขยายผลเพื่อตรวจสอบเส้นทางการนำทรัพย์ไปขายต่อ รวมถึงมาตรการป้องกันเหตุซ้ำในพื้นที่ต่อไป