เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากที่ "นายกฯ อนุทิน" และ "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" ลงนาม MOU เรื่องแร่หายาก หรือ แรร์เอิร์ธ (Rare Earth)
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กคัดค้านการลงนาม MOU แร่แรร์เอิร์ธ กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เพราะทำให้ไทยเสียเปรียบสหรัฐฯ และไม่มีความจำเป็นใด ๆ ในการเซ็น MOU
และย้อนดูผลประชุม ครม. วันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ไม่พบวาระดังกล่าวเข้า ครม. อีกทั้งกรมเหมืองแร่ฯ ก็ยังไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องแรร์เอิร์ธ
สส.เชียงใหม่ มองว่า MOU ฉบับนี้มีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ให้สิทธิสหรัฐฯ เข้ามาวิเคราะห์พื้นที่แร่หายากในไทย และหากพบแร่ ไทยต้องแจ้งสหรัฐฯ ให้เร็วที่สุด และสหรัฐคาดหวังว่าจะได้โอกาสในการลงทุนก่อน รวมถึงกระบวนการอนุญาตให้นักลงทุนสหรัฐฯ ต้องทำให้รวดเร็วมากขึ้นด้วย จึงไม่เห็นด้วยกับการลงนาม MOU ฉบับนี้ ดังนั้นขอให้รัฐบาลต้องไม่พิจารณาการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในประเทศ และห้ามเปิดช่องให้สหรัฐฯ ใช้ MOU มาบีบให้ไทยต้องเปิดทางการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในประเทศให้สหรัฐฯ พร้อมเร่งออกกฎหมายลูกที่เข้มงวด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมของชาติ
ด้าน "นายกฯ อนุทิน" ชี้แจงว่า การลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ไม่ได้เป็นสิ่งที่มีความน่าวิตกกังวล และเนื้อหาใน MOU มีวัตถุประสงค์หลัก คือ การแสวงหาความร่วมมือด้วยกัน และต้องปฏิบัติตามกฎหมายของไทย
เมื่อถึงเวลาอันควรดูแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะเดินหน้ากันต่อไป คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยกเลิกได้ โดยไม่ต้องรับการยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง จึงขออย่าไปฟังแต่หัวข้อแล้ววิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว
ด้าน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ MOU แรร์เอิร์ธ ไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย หรือข้อตกลงที่ต้องร่วมลงทุน สามารถยกเลิกเมื่อไรก็ได้
สำหรับแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) แม้ถูกเรียกว่า "แร่หายาก" แต่สามารถพบได้ในเนื้อหินเกือบทุกชนิดที่เป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก แต่การพบในรูปแบบบริสุทธิ์หาได้ยากมาก ต้องมีกระบวนการขุด และกลั่นหลายขั้นตอน ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และใช้ต้นทุนสูง อีกทั้งกระบวนการยังสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมสูง
แรร์เอิร์ธ เป็นวัตถุดิบต้นน้ำที่มีความสำคัญมากในการผลิตเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตั้งแต่สมาร์ตโฟน รถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีการแพทย์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเทคโนโลยีอวกาศ
แหล่งแร่แรร์เอิร์ธในไทย พบกระจายตัวทางด้านตะวันตกของประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ เช่น จังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุทัยธานี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี