เสนอเป็นเจ้าภาพประชุมปราบสแกมเมอร์

View icon 70
วันที่ 28 ต.ค. 2568 | 07.15 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - การปราบปราม "สแกมเมอร์" ของรัฐบาลไทยยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม

เมื่อวาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 28 พร้อมผู้นำ และผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศคู่เจรจาบวกสาม ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี

โดย "นายกฯอนุทิน" เน้นย้ำเสริมสร้างความร่วมมือให้เข้มแข็ง และเท่าทัน ซึ่งไม่เพียงเสนอความมั่นคงทางการเงิน และความมั่นคงทางดิจิทัล

นอกจากนี้ไทยยังเสนอตัว เป็นเจ้าภาพประชุมปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์  โดยไม่เพียงแค่ในกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ยังเดินหน้าจับมือกับจีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อแก้ไขปัญหา

ขณะที่ภาพรวมการปราบปรามสแกมเมอร์ของไทย ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง หลัง "เคเคปาร์ก" ถูกโจมตีจนทำให้สแกมเมอร์หนีตายมาฝั่งไทย ยอดรวมเกินกว่า 1,500 คน และมีรายงานว่าบางส่วนกำลังไปยังกัมพูชา

อีกความเคลื่อนไหวสำคัญ เมื่อวาน ตัวแทนมูลนิธิกระจกเงา ได้นำข้อมูลของบุคคลสูญหาย 119 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก, สตรี และคนชราไปยื่นให้ "คณะกรรมการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ โดยเชื่อว่าเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์

โดยแผนประทุษกรรมจะคล้าย ๆ กับหลายคนที่ขอความช่วยเหลือกับศูนย์ประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน

เริ่มจากการไปเจอโฆษณาสมัครงานในโซเชียลฯ เสนอรายได้ดี เมื่อหลงกลติดต่อไปจะถูกหลอกไปเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนัดหมายพาตัวไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 

ก่อนถูกหลอกข้ามไปกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนตกงาน หรือมีปัญหาพัฒนาการทางสมอง

ส่วนการแถลงผลการจับกุมของ "ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์" มีการสรุปตัวเลขผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1-26 ตุลาคม 

สามารถจับกุมผู้ต้องหา 73 คน ความเสียหายรวม 1,400 ล้านบาท ช่วยเหลือเหยื่อได้ทัน 7 คดี

โดยมีอยู่คดีหนึ่ง ตำรวจจับกุมตำรวจนายหนึ่งเป็น "รองผู้กำกับการสอบสวน" หลังพบพฤติการณ์ผันตัวไปเป็นคนคุมบัญชีม้า มีบัญชีในการครอบครองมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านบาท

ล่าสุดเจ้าตัวให้การปฏิเสธ และถูกพาตัวไปฝากขังศาลฯ ก่อนได้รับการประกันตัวสู้คดี

เรื่องกระแสข่าวที่สื่อต่างชาติ ระบุว่า ไทยเป็นหนึ่งในฐานที่ตั้งของแก๊งสแกมเมอร์ เรื่องนี้พลตำรวจโทจิรภพฯ ยอมรับตามตรงว่ามีอยู่จริง แต่ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเพียงกลุ่มคนที่หลบหนีเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ และมาใช้ที่พักอาศัยแฝงตัวก่อเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง