“ศุภจี” ยืนยัน MOU “แรร์เอิร์ธ” ไม่ผูกมัดบังคับ “ไทย” เลือกข้างสหรัฐฯ เผย “จีน” เข้าใจดี

“ศุภจี” ยืนยัน MOU “แรร์เอิร์ธ” ไม่ผูกมัดบังคับ “ไทย” เลือกข้างสหรัฐฯ เผย “จีน” เข้าใจดี

View icon 87
วันที่ 28 ต.ค. 2568 | 08.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ศุภจี” ย้ำ MOU “แรร์เอิร์ธ” ไม่ได้บีบให้ “ไทย” เลือกข้างสหรัฐฯ เผยคุย “ทูตจีน” แล้ว เข้าใจเป็นอย่างดี

ระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ค่ำวานนี้ (28 ต.ค.68) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้าน ‘แร่ธาตุสำคัญ’ ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา หรือ MOU-แรร์เอิร์ธ ว่า สหรัฐฯ ขอให้ไทยมาลงนามข้อตกลงนี้ด้วยกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และ ได้รับความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ไม่มีข้อผูกพันทางกฏหมาย สามารถยกเลิกได้ ไทยจึงได้ลงนามดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษใด ๆ ทุกอย่างเป็นไปตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.เหมืองแร่ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นางศุภจี ยังมั่นใจว่า MOU นี้ไม่มีผลในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ เพราะไม่ได้ผูกมัดให้ “ไทย” ต้องเลือกข้างสหรัฐฯ และจีนก็แสดงความจำนงว่า พร้อมร่วมมือกับไทยแล้วด้วย

"เราไม่มีแรร์เอิร์ธนะคะ  แต่จีนมีอยู่ 90 % จากจำนวนแรร์เอิร์ธที่มีในโลก ปัจจุบันเรามีไม่เยอะมาก แต่อาจมีในอนาคตก็ได้ และอาจมีแรร์เอิร์ธบางตัว ก็เป็นไปได้ การที่เราเซ็นกับสหรัฐฯได้ เราเซ็นกับจีนก็ได้ ไม่ใช่การค้าเหมือน FTA เราเป็นภาคีกับประเทศนี้ ก็ไม่ใช่จะให้ประโยชน์กับประเทศนี้เท่านั้น เราจะดูแลให้อีกประเทศหนึ่งได้เหมือนกัน" นางศุภจี กล่าว

สำหรับการค้าขายในปัจจุบัน นางศุภจี ระบุว่า ต้องเปิดกว้างและเสรี ไทยไม่ใช่ประเทศขนาดใหญ่  ต้องพึ่งพาจีน และสหรัฐฯ ซึ่งจีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งทั้งนำเข้าและส่งออก ส่วนสหรัฐ ฯ ไทยส่งออกไปอันดับหนึ่ง ทั้งสองตลาด เป็นตลาดที่มีความหมาย ทำให้สามารถร่วมมือกันได้ ไม่มีการผูกมัดให้ต้องทำกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น  จึงไม่น่ากังวล และไทยควรอธิบายให้จีนเข้าใจ ถ้าจีนมาคุยในเรื่องนี้ 

"ทูตจีนมาพบพี่ก่อนมาที่นี่ บอกไม่ต้องกังวลนะ เพราะรู้ว่าไทยใช้ในพาณิชย์อย่างเดียว เช่น Semi-Conductor เราเป็นผู้ใช้ ไม่ต้องกลัวว่า เขามีมาตรการนี้แล้วกระทบกับเรา เราเจรจาแบบนี้ไม่ต้องกังวล ฝากบอกด้วยว่า MOU ตัวนี้ไม่มีผลทางกฏหมาย เป็นข้อตกลงความร่วมมือกัน อาจมีประโยชน์ในเรื่องเทคโนโลยี และนำเราไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานได้เช่นกัน" นางศุภจี กล่าว

ส่วนกรณีมีข้อห่วงใยการทำเหมืองแร์เอริ์ธในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้เกิดมลพิษข้ามพรมแดนนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไทยออกกฏนำเข้าผลผลิตเกษตรที่มาจากประเทศที่ทำให้เกิดมลพิษ รวมทั้ง กำลังออกกฏหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาด ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องดูในระยะยาว